4th Floor, National Health Building 88/39 Tiwanon 14 Road Taradkwan, Muang District Nonthaburi 11000
Font Size
-
+
color contrast
C
C
C
Search
เมนู

8วิถีเพื่อสุขภาพหัวใจ

          โรคหลอดเลือดหัวใจเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตทั้งในชายและหญิง ตามสถิติแล้ว ประชากรทุก 10 คนจะมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจถึง 4 คน โดยสาเหตุของโรคมักมาจากภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ หรือภาวะที่มีไขมันก่อตัวอยู่บริเวณผนังหลอดเลือดจนส่งผลกระทบต่อการลำเลียงเลือดไปยังหัวใจ

          แม้สถิติของโรคหัวใจออกจะน่ากลัวอยู่บ้าง แต่โชคดีที่โรคดังกล่าวนี้ป้องกันได้ คำแนะนำ 8 ประการต่อไปนี้ อาจช่วยคุณลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจได้
          1.รู้จักตัวเอง มีปัจจัยหลายประการที่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ โดยที่บางปัจจัย เช่น มีบุคคลในครอบครัวเป็นโรคหัวใจ เป็นเรื่องที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้แต่ปัจจัยอื่นๆ ซึ่งส่วนมากได้แก่ พฤติกรรมส่วนตัวและการดำเนินชีวิตนั้น เป็นเรื่องที่ควบคุมได้ เช่น หากสูบบุหรี่ หรือมีความดันโลหิตและคอเลสเตอรอลสูง ความเสี่ยงต่อโรคหัวใจของจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ดังนั้น แม้การทราบว่าตัวเองเสี่ยงต่อโรคหัวใจ จะทำให้กังวล แต่ก็ทำให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจนกลายเป็นผู้มีสุขภาพดี ปลอดจากโรคหัวใจได้เช่นกัน

          2.ผ่อนคลายความเครียด แม้ความเกี่ยวพันระหว่างความเครียดกับโรคหัวใจจะยังไม่ชัดเจน แต่ความเครียดมีผลทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น ระดับฮอร์โมนความเครียด อาทิ คอร์ติซอล และอะดรีนาลีน เพิ่มสูงจนเป็นอันตราย ทั้งยังส่งผลให้เกิดแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมทำลายสุขภาพ เช่น รับประทานอาหารมากขึ้น สูบบุหรี่มากขึ้น และออกกำลังกายน้อยลง  การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ร่างกายและจิตใจรับมือกับความเครียดได้ดีขึ้น ขณะที่การทำสมาธิ นวดผ่อนคลาย เล่นโยคะก็เป็นวิธีผ่อนคลายที่ได้รับความนิยมเช่นกัน

          3.งดสูบบุหรี่ ไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจประการใดจะร้ายแรงเท่ากับการสูบบุหรี่อีกแล้ว การเลิกบุหรี่ได้จึงเป็นประโยชน์มหาศาลต่อสุขภาพหัวใจ  บุหรี่ประกอบไปด้วยสารเคมีหลายชนิดที่เป็นอันตรายต่อหัวใจและระบบไหลเวียนโลหิต สารเหล่านี้จะเพิ่มความดันให้สูงขึ้น และลดปริมาณออกซิเจนในกระแสเลือดลง ดังนั้นไม่ว่าจะสูบมากหรือสูบน้อยก็เป็นอันตรายต่อร่างกายเช่นเดียวกัน แม้แต่ผู้ที่สูบเป็นบางครั้งก็ยังมีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจสูงกว่าผู้ที่ไม่สูบเลย

          4.ลดน้ำหนักส่วนเกิน ความอ้วน และน้ำหนักส่วนเกินไม่ส่งผลดีแต่ประการใด โดยเฉพาะกับสุขภาพหัวใจ น้ำหนักเกินนั้นเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ผู้ที่มีรอบเอวหนามีความเสี่ยงต่อความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งทั้งสามโรคนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่โรคหัวใจทั้งสิ้น

          5.ควบคุมความดันโลหิต ผู้ที่มีปัญหาเรื่องความดันโลหิตสูง มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจสูงโดยอัตโนมัติ เนื่องจากความดันโลหิตสูงเป็น "ส่วนผสม" พื้นฐานของโรคหัวใจ ในระยะยาวความดันโลหิตสูงจะทำให้เกิดการอักเสบ ทำลายผนังหลอดเลือดจนเกิดเป็นผลกระทบที่ร้ายแรงตามมา  มีปัจจัยหลายประการที่ทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง ทั้งพันธุกรรม ความอ้วน การรับประทานอาหาร โดยไม่คำนึงถึงสุขภาพ และขาดการออกกำลังกาย ดังนั้นการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตจึงเป็นวิธีที่ได้ผลดีในระยะยาว ในรายที่มีความดันสูงมากๆ เวชภัณฑ์หลายชนิดก็ใช้ได้ผลดี

          6.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ชีวิตที่เร่งรีบทำให้หลายคนไม่มีเวลาไตร่ตรองเรื่องการรับประทานอาหารเท่าไรนัก ทั้งฟาสต์ฟู้ด อาหารขยะ และการรับประทานมากเกินพอดี ล้วนเป็นอันตรายต่อสุขภาพและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้  ผู้เชี่ยวชาญเห็นตรงกันว่า การรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อหัวใจ หมายถึงการลดอาหารที่อุดมไปด้วยไขมันและไขมันแปลงสภาพ รับประทานผักและผลไม้ประมาณ 5-10 ส่วนต่อวัน เน้นธัญพืชไม่ขัดสี และบริโภคโปรตีนไขมันต่ำ อาทิ เนื้อไม่ติดมันและเนื้อปลา โดยเฉพาะปลาที่อุดมด้วยไขมันอย่างปลาแซลมอนที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 อยู่มาก ซึ่งอาจช่วยป้องกันโรคหัวใจได้ หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันปาล์มและน้ำมันมะพร้าวในการประกอบอาหาร

          7.อย่าอยู่เฉย การอยู่เฉยๆ อาจทำให้เสียชีวิตได้ การออกกำลังกาย (อย่างน้อยวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 4-5 ครั้ง) ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้อย่างน่าอัศจรรย์ ทั้งยังลดความเสี่ยงต่อโรคอื่นๆ ได้หลายประการ รวมทั้งโรคร้ายแรงอย่างเช่น โรคมะเร็ง  การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้หัวใจแข็งแรง ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดน้ำหนักส่วนเกิน ผ่อนคลายความเครียด ทำให้อารมณ์ดี และกระดูกแข็งแรงอีกด้วย  และควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเรื่องการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับสุขภาพของคุณ

          8.ตรวจสุขภาพเป็นประจำ ข้อสุดท้ายนี้อาศัยความพยายามเพียงเล็กน้อย แต่สิ่งที่ได้กลับมานั้นเป็นประโยชน์มาก การตรวจสุขภาพช่วยให้พบปัญหาที่อาจกลายเป็นอันตรายได้ตั้งแต่ในระยะแรกเริ่ม ซึ่งการรักษาจะได้ผลดี และมีประสิทธิภาพมากที่สุด  ทั้งความดันโลหิต และคอเลสเตอรอลเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของโรคหัวใจ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการตรวจวัดความดันและระดับไขมันในเลือดเป็นระยะๆ เพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ

          โดยทั่วไปควรตรวจสุขภาพหัวใจทุกๆ 2 ปี แต่สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงควรเพิ่มความถี่ในการตรวจมากขึ้น บางกรณีแพทย์อาจแนะนำให้เข้ารับการตรวจหัวใจขั้นสูง เช่น ทดสอบสมรรถภาพหัวใจบนสายพานวิ่ง ทั้งนี้ย่อมขึ้นอยู่กับอายุและสุขภาพของผู้เข้ารับการตรวจด้วย

ที่มา : หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก ฉบับวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2557 หน้า 22

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
(Strictly Necessary Cookies) เปิดใช้งานตลอด

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้