ข่าว/ความเคลื่อนไหว
ทุกวันนี้ คนส่วนใหญ่มักมีไลฟ์สไตล์แบบเร่งรีบกันมากขึ้น ส่งผลให้ไม่ค่อยมีเวลาทำอาหารกันสักเท่าไหร่นัก อาหารสำเร็จรูปอย่าง อาหารแช่แข็ง (frozen food) และอาหารที่มีความเย็นในระดับอุณหภูมิต่ำ (chilled food) จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่หลายคนสนใจ หันมาบริโภคกันมากขึ้น เพราะเพียงนำเข้าไป อุ่นในเตาอบไมโครเวฟไม่กี่นาทีก็ได้ลิ้มชิมรส อาหารที่ถูกใจกันแล้ว แต่ด้วยเพราะความสะดวกสบาย และช่วยประหยัดเวลาขนาดนี้ ทำให้ผู้บริโภคหลายคนมีความวิตกกังวลว่าการทานอาหารเหล่านี้ จะทำให้ได้รับคุณค่าทางอาหารที่น้อยลง และยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งอีกด้วย วันนี้เราเลยจะพาไปไขข้อข้องใจกันว่า แท้จริงแล้ว การรับประทานอาหารจากไมโครเวฟ ไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด หากผู้บริโภคมีความเข้าใจเกี่ยวกับการปรุงอาหารด้วยไมโครเวฟอย่างถูกวิธี
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว คลื่นไมโครเวฟ ที่เราใช้ปรุงอาหารกันนั้น มาจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเหมือนคลื่นวิทยุ คลื่นทีวี คลื่นแสงอินฟาเรด คลื่นรังสีเอ๊กซ์ และคลื่นรังสีแกมม่า แต่คลื่นไมโครเวฟนั้น จะมีคลื่นสั้นกว่า คลื่นวิทยุและคลื่นทีวี และมีความยาวกว่า คลื่นแสงอินฟาเรดและคลื่นอื่นๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ดังนั้น คลื่นไมโครเวฟที่ใช้ปรุงอาหาร จะมีความถี่คลื่น 2,450 ล้านรอบต่อวินาที (หรือ 2,150 เมกะเฮิร์ทซ์)
สำหรับการทำงานของคลื่นไมโครเวฟนั้น จะพุ่งไปกระทบอาหารและจะถ่ายทอดพลังงานของมันให้โมเลกุลของน้ำทั้งในและนอกอาหารเกิดการสั่นสะเทือนเสียดสีกันเป็นความร้อน ทำให้อาหารสุกอย่างรวดเร็ว เมื่อคลื่นไมโครเวฟมอบพลังงานให้โมเลกุลของน้ำหมดแล้ว จะไม่มีการตกค้างหรือปะปนในอาหาร เพราะคลื่นไมโครเวฟ เป็นคลื่นพุ่งผ่านแล้วมอบพลังงานให้กับสิ่งที่มันพุ่งผ่านไป เมื่อพลังงานหมดก็สลายตัวไป คงเหลือแต่สิ่งที่ เกิดขึ้นหลังการวิ่งผ่านไป คือ เกิดความร้อนทำให้อาหารสุก จากนั้นคลื่นก็จะสลายตัวไปเอง ไม่เหลือทิ้งไว้ในอาหาร ฉะนั้น อาหารที่ทำให้สุกจากคลื่นไมโครเวฟ จึงไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อมนุษย์ 100%
ทั้งนี้ อาหารแช่แข็ง หรือ อาหารอุณหภูมิต่ำ ถือเป็นวิธีการถนอมอาหารรูปแบบหนึ่ง ที่ช่วยรักษาและถนอมคุณภาพอาหารให้คงความสด สะอาด ช่วยระงับการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในอาหาร อาทิ แบคทีเรีย ยีสต์ หรือ รา ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย ฉะนั้น จึงไม่ได้เป็นอันตรายต่อสุขภาพผู้บริโภค แต่อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคจะต้องมีความเข้าใจในการใช้ไมโครเวฟอย่างถูกวิธีด้วย
สำหรับขั้นตอนการใช้ไมโครเวฟอย่างถูกวิธี มีวิธีง่ายๆ ดังนี้
1.ควรเลือกภาชนะที่เหมาะสม เช่น ชามกระเบื้อง พลาสติกที่ทนความร้อน ภาชนะไม้ จานกระดาษ
2.ห้ามใช้ภาชนะโลหะทุกชนิด หรือภาชนะกระเบื้องที่มีขอบเงินขอบทอง เพราะคลื่นไม่สามารถจะพุ่งผ่านไปได้
3.ตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสมกับการ ใช้งาน
4.เวลาอุ่นอาหารที่เป็นน้ำหรือน้ำมัน ควรใช้ฝาชี หรือ พลาสติกทนความร้อนครอบอาหารเสียก่อนเริ่มเปิดใช้เครื่อง
5.ไม่ควรนำอาหารที่มีผิวมันหรือมีเปลือกแข็ง เข้าไปทำให้สุกในตู้ เพราะความร้อนจะทำให้อากาศภายในอาหารขยายตัว ประกอบกับไอน้ำที่เกิดขึ้นมีแรงดันสูง จะทำให้เกิดระเบิดเสียงดังได้ ควรใช้ส้อมจิ้มผิวอาหารให้เป็นรูเสียก่อน
6.การปรุงอาหารด้วยภาชนะที่มีฝาปิดในตัว ควรเปิดฝาเล็กน้อย เพื่อให้ไอน้ำพุ่งออกได้หรือพลิกฝาปิดเพียงวางไว้เฉย ๆ ไม่ปิดแน่น
นอกจากนี้ ยังมีข้อแนะนำเพิ่มเติม คือ ไม่ควรทิ้งอาหารในไมโครเวฟนานเกินไป อย่างเช่น ถ้าคุณต้องการอุ่นอาหาร 5 นาที หลังจากผ่านไป 2-3 นาที ควรนำอาหารออกมาคน หรือ กวน เพื่อกระจายความร้อนให้ทั่วถึง แล้วจึงนำกลับเข้าไปอุ่นให้ครบตามเวลาที่กำหนด ส่วนในกรณีที่อาหารมีชิ้นหนาหรือใหญ่มาก ควรหั่นหรือตัดอาหารให้มีขนาดเหมาะสม แล้วจัดอาหารให้กระจายห่างกัน ไม่รวมเป็น กระจุกเดียว เพื่อให้อาหารสุกทั่วกัน
การดูแลก็ถือเป็นส่วนสำคัญในเรื่องของความปลอดภัย เมื่อเราใช้งานเตาอบไมโครเวฟเรียบร้อยแล้ว ควรดูแล ด้วยการเช็ดทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ อย่าปล่อยให้เศษอาหารกระเด็นค้างอยู่ในตู้เป็นระยะเวลานานๆ เพราะความเค็มของอาหารจะทำให้เหล็กตู้เป็นสนิมและเกิดเป็นรอยทะลุ ทำให้คลื่นไมโครเวฟรั่วออกมาเกิดอันตรายกับ ผู้ใช้ได้ ห้ามใช้ของมีคมขูดหรือขัดตู้
เมื่อเรารู้วิธีการปรุงอาหารด้วยไมโครเวฟอย่างถูกวิธีแล้ว อย่าลืมซื้อเครื่องที่มีมาตรฐาน มีการรับรองคุณภาพ อ่านคู่มือก่อนใช้และเลือกภาชนะที่ใช้ ให้เหมาะสมอีกด้วย เพราะหากเครื่องดีไม่มีรอยรั่ว อันตรายจากไมโครเวฟ จะไม่เกิดขึ้นเลย 100%
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 หน้า 9
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้