ข่าว/ความเคลื่อนไหว
ก่อนอื่นควรทำความเข้าใจก่อนว่าการวิจัยสุขภาพ คือ การสร้างองค์ความรู้ใหม่โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อนำมาแก้ปัญหาสุขภาพ ประกอบด้วยการวิจัยพื้นฐานและการวิจัยประยุกต์
ระบบวิจัยสุขภาพจึงเป็นกลไกที่ตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนนักวิจัย สถาบันวิจัย และองค์กรให้ทุน ทั้งภาครัฐและเอกชน ในการสร้างระเบียบวิธีในการผลิตและนำความรู้จากงานวิจัยที่มีคุณภาพไปสนับสนุน ปรับปรุง และดำรงสุขภาวะของประชากร
การปรับปรุงสุขภาวะของประชากรในประเทศให้ดีขึ้นอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมจำเป็นต้องอาศัยการร่วมมือร่วมใจและการพัฒนาศักยภาพขององค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง การเลือกพัฒนาเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งของกระบวนการวิจัย หรือเพียงประเด็นใดประเด็นหนึ่งของงานวิจัย จะทำให้งานวิจัยนั้นๆ ล้มเหลว ส่งผลต่อความล้มเหลมในการปรับปรุงสุขภาวะของประชากร ทั้งนี้เพราะทุกภาคส่วนและทุกองค์กรต่างต้องอาศัยกันและกันในการหนุนเสริมให้งานวิจัยสุขภาพส่งผลที่ทรงพลัง
การจัดตั้งระบบวิจัยสุขภาพของชาติจึงมีความจำเป็น ทั้งนี้เพื่อปรับปรุงกลวิธีการใช้ประโยชน์จากงานวิจัย เผยแพร่องค์ความรู้ภายในและภายนอกประเทศ เพิ่มการเข้าถึงทรัพยากรในการทำวิจัย เพิ่มจำนวนและคุณภาพของนักวิจัยและการสร้างเครือข่ายนักวิจัย เร่งการสร้างสถานที่ เครื่องมือ และอุปกรณ์ที่จำเป็นและมีคุณภาพสำหรับผลิตงานวิจัยสุขภาพ
วัตถุประสงค์ดังกล่าวจะสำเร็จได้ ต้องอาศัยระบบการสนับสนุนที่แข็งขัน กลไกสร้างนวัตกรรมที่ยั่งยืน กลไกจัดลำดับความสำคัญที่มีประสิทธิภาพ การเสริมศักยภาพที่ถูกจุด การสร้างเครือข่ายนักวิจัยที่สามัคคี การบริหารจัดการแบบมืออาชีพ และการประเมินกลไกการทำงานและผลสัมฤทธิ์อย่างตรงไปตรงมา การพัฒนาระบบวิจัยสุขภาพระดับชาติ ประกอบด้วย 4 ขั้นตอนดังนี้
ขั้นที่ 1 ทำแผนที่ระบบวิจัยสุขภาพระดับชาติ
เพื่อให้รู้ว่าระบบอภิบาล กรอบนโยบาย แหล่งทุน องค์กรผลิตงานวิจัย และหน่วยงานหรือกลุ่มคนที่จะใช้ประโยชน์จากงานวิจัย
ขั้นที่ 2 ประเมินศักยภาพของระบบวิจัยสุขภาพระดับชาติ
เพื่อประเมินความพอเพียงและขีดความสามารถของนักวิจัย และประเมินคุณภาพของงานวิจัยในอดีตและปัจจุบันในเชิงผลลัพธ์ ความสอดคล้องกับปัญหาของประเทศ และผลกระทบเชิงบวกและลบต่อสุขภาพ
ขั้นที่ 3 วิเคราะห์ผลสำเร็จของระบบวิจัยสุขภาพระดับชาติ
ประเมินภาพรวมว่าผลลัพธ์จากงานวิจัยตอบโจทย์ของประเทศในการพัฒนาสุขภาพและระบบสุขภาพ ลดความไม่เท่าเทียมทางสุขภาพ และมีส่วนในการปรับปรุงสภาพสังคมและเศรษฐกิจของประชาชนหรือไม่ นอกจากนี้ควรประเมินศักยภาพของระบบในการสร้างนวัตกรรม ระบบการควบคุมจริยธรรม กลการนำนโยบายไปใช้ การสนับสนุนของแหล่งทุน การมีส่วนร่วมของภาคเอกชน และความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ
ขั้นที่ 4 ประเมินประสิทธิภาพของการดำเนินการ
พิจารณาทั้งการจัดลำดับความสำคัญของงานวิจัย การจัดกรกำลังคน กลไกการเงินการคลัง การเสริมสร้างสมรรถภาพของสถาบัน และการถ่ายทอดผลงานสู่สาธารณะ
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้