4th Floor, National Health Building 88/39 Tiwanon 14 Road Taradkwan, Muang District Nonthaburi 11000
Font Size
-
+
color contrast
C
C
C
Search
เมนู

หวั่นน้ำท่วมส่งผลให้โรคติดเชื้อขยายวงกว้าง เร่งสอนล้างมืออย่างถูกวิธีสกัดการระบาด

          ด้วยประโยชน์ของการล้างมือในการช่วยลดการติดเชื้อโรค และลดอัตราการตายของคนทั่วโลกจากการติดเชื้อ ดังนั้น สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN) จึงได้กำหนดให้วันที่ 15 ตุลาคม ของทุกปีเป็น "วันล้างมือโลก หรือ Global Hand Washing Day"

          ปัจจุบันได้มีประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกเข้าร่วมรณรงค์วันล้างมือโลกมากกว่า 83 ประเทศ ซึ่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศภาคีวันล้างมือโลกนี้ โดยผลิตภัณฑ์โพรเทคส์ บริษัท คอลเกต ปาล์มโอลีฟ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ร่วมกับ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด และมูลนิธิคุณแม่คุณภาพ จัดกิจกรรมวันล้างมือโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 แล้ว
          มร.แอนดรูว์ เชพเพิร์ด กรรมการผู้จัดการ บริษัท คอลเกต ปาล์มโอลีฟ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์โพรเทคส์ ได้จัดให้มีกิจกรรมรณรงค์การล้างมืออย่างต่อเนื่องเสมอมา ล่าสุดได้จัดทำโครงการวิจัยล้างมือลดโรคในโรงเรียน เพื่อเป็นการสร้างการตระหนักรู้อย่างกว้างขวาง และกระตุ้นการล้างมือด้วยสบู่เพื่อสร้างสุขนิสัยที่ดีตั้งแต่วัยเด็ก ซึ่งงานวิจัยพบว่าการล้างมืออย่างถูกสุขลักษณะด้วยสบู่ลดการสะสมของแบคทีเรีย จะช่วยลดโอกาสติดเชื้อโรคต่าง ๆ ที่มีมือเป็นพาหะนำเชื้อโรคเข้าสู่ระบบต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น โรคไข้หวัด โรคท้องร่วง โรคผิวหนังอักเสบ โรคตาแดง ลดลงร้อยละ50 เมื่อล้างมืออย่างถูกสุขลักษณะด้วยสบู่ลดการสะสมของแบคทีเรีย นอกจากนี้ยังพบว่าพฤติกรรมการล้างมือของเด็กนักเรียนก็เปลี่ยนไป คือนักเรียนขยันล้างมือบ่อยขึ้นโดยที่ไม่ต้องบอกให้ล้างคิดเป็นร้อยละ 84


          ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขได้จัดกิจกรรมกระตุ้นให้ประชาชนเกิดความตื่นตัวในการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคมากขึ้น และมีการใช้อุปกรณ์เพื่อป้องกันโรคติดต่อเพิ่มขึ้น เช่น ผ้าปิดจมูก ถุงมือ แต่หากพิจารณาถึงความคุ้มค่าจากวิธีการป้องกันดังกล่าว จะไม่มีวิธีใดที่ดีไปกว่า "การล้างมือด้วยสบู่" ซึ่งทางกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมพฤติกรรมอนามัย สร้างสุขนิสัยที่ดีของประชาชนเพื่อป้องกันโรคติดต่อ ด้วยการรณรงค์เรื่องการล้างมืออย่างต่อเนื่อง โดยแนะนำให้ประชาชนล้างมือทุกครั้งภายหลังทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น หลังการจามหรือไอ หลังสัมผัสสิ่งสกปรกหรือสิ่งของที่ใช้ร่วมกับผู้อื่น หลังออกจากห้องส้วม และก่อนรับประทานอาหาร เป็นต้น

          โดยจากผลการสำรวจในแหล่งชุมชนที่มีผู้สัญจรในกรุงเทพ มหานคร ปี 2552  พบว่าประชาชนส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการล้างมือก่อนรับประทานอาหาร ร้อยละ 61  และมีการล้างมือด้วยน้ำและสบู่หลังเข้าส้วม ร้อยละ 87  โดยการศึกษาพบว่า ร้อยละของการปนเปื้อนของเชื้อโรคในมือมีปริมาณไม่สูงมาก คิดเป็นร้อยละ 12  ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลการสัมภาษณ์ในเชิงพฤติกรรมที่พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญของการล้างมือมากขึ้นร้อยละ 90  แต่พบว่าประชาชนบางส่วนถึงแม้จะเห็นความสำคัญของการล้างมือ แต่ยังมีวิธีการล้างมือที่ไม่ถูกต้องคือล้างด้วยน้ำเปล่า ร้อยละ41

          ทั้งนี้ การล้างมือที่ถูกวิธีด้วยน้ำและสบู่มีด้วยกัน 7 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ฝ่ามือถูกัน 2) ฝ่ามือถูหลังมือและนิ้วถูซอกนิ้ว 3) ฝ่ามือถูฝ่ามือและนิ้วถูซอกนิ้ว 4) หลังนิ้วมือถูฝ่ามือ 5) ถูนิ้วหัวแม่มือโดยรอบด้วยฝ่ามือ 6) ปลายนิ้วมือถูขวางฝ่ามือ และ 7) ถูรอบข้อมือ โดยทุกขั้นตอนทำ 5 ครั้ง สลับกันทั้ง 2 ข้าง
          การล้างมือด้วยวิธีการข้างต้น เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพ เสียค่าใช้จ่ายน้อย และสามารถป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคได้ดี ดังนั้นจึงควรปลูกฝังการสร้างสุขอนามัยที่ดีให้แก่ประชาชนคนไทยตั้งแต่เด็ก ๆ เพื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขอนามัยที่ดี
          และในช่วงที่เกิดน้ำท่วม ฝนตก และอากาศแปรปรวนอย่างในปัจจุบัน เป็นปัจจัยที่เอื้ออำนวยให้เชื้อโรคต่าง ๆ ที่เป็นสาเหตุของโรคติดเชื้อที่สำคัญ เช่น โรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ โรคปอดบวม โรคมือเท้าปาก และโรคระบบทางเดินหายใจต่าง ๆ เป็นต้น มีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานขึ้น

          รวมทั้งการใส่เสื้อผ้าเปียกชื้นเป็นเวลานาน ก็จะส่งผลให้เกิดภาวะความเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในเด็กเล็ก และที่ที่เด็กอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก เพราะเชื้อโรคจะแพร่กระจายจากเด็กสู่เด็กด้วยการเล่น การสัมผัส การใช้แก้วน้ำและช้อนส้อมร่วมกันได้
          ดังนั้น จึงควรดูแลป้องกันด้วยการล้างมือเป็นประจำ และปิดปากปิดจมูกเมื่อไอหรือจาม หลีกเลี่ยงการเข้าไปในที่คนแออัดเพราะเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรค

ทีมเดลินิวส์ 38 article@dailynews.co.th

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์  ฉบับวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556  หน้า 8

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
(Strictly Necessary Cookies) เปิดใช้งานตลอด

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้