ข่าว/ความเคลื่อนไหว
ที่ผ่านมา นายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรคลงพื้นที่บริเวณถนนเจริญนคร ซอย 55 เขตคลองสาน กรุงเทพมหานครร่วมขบวนรณรงค์ป้องกันไข้เลือดออกกับนายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและคณะ และได้กล่าวระหว่างร่วมกิจกรรมว่าขณะนี้สถานการณ์ไข้เลือดออกทั่วประเทศโดยรวมมีแนวโน้มดีขึ้น ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพบผู้ป่วยประมาณ 2,800 รายและคาดว่าจำนวนผู้ป่วยจะลดลงเรื่อยๆ ช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนนี้การรณรงค์ป้องกันไข้เลือดออกจะเน้นในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล เนื่องจากเป็นช่วงที่เด็กๆ ปิดเทอมเด็กจึงอยู่กับบ้านเป็นส่วนใหญ่ ประกอบกับช่วงนี้มีฝนตกติดต่อกันเกือบทุกวัน อาจมีน้ำท่วมขังจากฝนที่ตกและจะกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์อย่างดีของยุงลาย ทำให้เด็กๆ ที่อยู่กับบ้านเสี่ยงต่อการถูกยุงกัดและเป็นโรคไข้เลือดออก
ส่วนปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ขณะนี้ มีประชาชนจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน จึงขอฝากเตือนไปยังประชาชนผู้ประสบภัยให้ระวังใน 2 เรื่องหลักๆ คือ 1.การเสียชีวิตที่มีสาเหตุจากการจมน้ำตายโดยไม่ทันระวัง โดยควรหลีกเลี่ยงการออกหาปลาเวลากลางคืน งดการดื่มสุรา หรือไม่ไปในที่ที่มีน้ำเชี่ยวและการเดินในบริเวณที่น้ำลึกเพราะอาจเกิดการพลัดตกน้ำได้ ไม่ควรนำเด็กและผู้สูงอายุไปด้วย ถึงแม้จะว่ายน้ำเป็นหรือไม่เป็นต้องใช้ความระมัดระวังให้มาก เนื่องจากพบว่าการจมน้ำเสียชีวิตส่วนใหญ่ 90% มาจากสาเหตุดังกล่าว และ 2.การเสียชีวิตที่มีสาเหตุจากไฟดูดหรือไฟช็อต ช่วงที่น้ำท่วมควรถอดปลั๊กอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด สับสวิทช์ไฟฟ้าลง เพื่อป้องกันไฟฟ้าดูด และควรหลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำหรือเข้าใกล้เสาไฟฟ้าทั้งนอกและในบ้านเพราะอาจโดนไฟฟ้าดูดได้ ส่วนเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ ขณะนี้ยังไม่พบโรคระบาดนอกจากโรคตาแดงที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ซึ่งมีสาเหตุมาจากน้ำสกปรก และหากมีการเดินลุยน้ำต้องระวังเรื่องโรคฉี่หนูและน้ำกัดเท้า ทางที่ดีควรสวมรองเท้าบูทป้องกันเสมอขณะสัมผัสน้ำ และต้องรีบล้างเท้าให้สะอาดทันทีหลังเสร็จสิ้นการสัมผัสกับน้ำ เพื่อป้องกันโรคที่เกิดจากน้ำสกปรกตามมา
อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวต่ออีกว่า โรคที่สำคัญอีกโรคหนึ่งที่อยากให้ระมัดระวัง คือโรคอาหารเป็นพิษ เนื่องจากช่วงนี้อาจมีข้อจำกัดในเรื่องสถานที่ปรุงประกอบอาหาร ทำให้มีการปรุงประกอบที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ล่าสุดพบว่าจังหวัดปราจีนบุรีเกิดโรคอาหารเป็นพิษ สาเหตุมาจากการกินข้าวผัดหมูที่มีการทิ้งไว้เป็นเวลานาน แล้วนำมารับประทานจึงทำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษขึ้นด้วยเหตุนี้กรมควบคุมโรคจึงออกมาเตือน และฝากไปถึงประชาชนที่ใจบุญหรือหน่วยงานที่นำอาหารไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมหรือผู้ที่เดือดร้อนในพื้นที่ต่างๆ อยากให้อาหารที่นำมานั้นเป็นอาหารชนิดแห้ง เช่น ปลาทอด หมูทอด และข้าวเหนียว หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกะทิเป็นส่วนผสม หลีกเลี่ยงอาหารประเภท ลาบ ยำ พล่าต่างๆ และอาหารที่ปรุงประกอบเสร็จแล้วไม่ควรราดบนอาหาร ควรแยกข้าวและอาหารออกจากกันเพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อน อาหารที่นำมาบริจาคควรบรรจุใส่กล่อง ระบุวันเดือนปีที่ผลิตให้ชัดเจน และควรรับประทานภายใน 4 ชั่วโมง เพราะหากเก็บนานเกินไปอาจทำให้อาหารบูดและเสีย และอาจจะเป็นอันตรายแก่ประชาชนได้
"สำหรับการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันโรคอาหารเป็นพิษประชาชน ควรยึดหลัก กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ โดยการรับประทานอาหารที่สะอาด ปรุงสุกใหม่ๆ อยู่ในภาชนะที่สะอาดและดื่มน้ำสะอาด เช่น น้ำต้มสุก รวมถึงรักษาสุขภาพอนามัยด้วยการล้างมือให้สะอาดก่อนทานทุกครั้ง และล้างภาชนะใส่อาหารให้สะอาดไม่ควรนำน้ำท่วมมาล้างหรือทำความสะอาดภาชนะทั้งนี้หากเป็นอาหารสำเร็จรูปหรืออาหารกระป๋อง ก่อนปรุงควรสังเกตวันหมดอายุ หรือสภาพ สี กลิ่น กระป๋องต้องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ไม่มีสนิม หรือโป่งพองในส่วนใด ตะเข็บกระป๋องต้องไม่มีรอยรั่ว และเมื่อเปิดแล้วต้องนำมาใส่ภาชนะอื่นก่อน แล้วทำการอุ่นให้เดือดประมาณ 5 นาที ห้ามอุ่นอาหารทั้งกระป๋องโดยเด็ดขาด เพราะอาจเกิดอันตรายจากสารเคลือบหรือสารโลหะที่จะละลายปนมาในอาหารได้ และหากกินไม่หมด ต้องถ่ายใส่ภาชนะอื่นที่สะอาดมีฝาปิดมิชิด เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรค ซึ่งจะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคอาหารเป็นพิษได้" อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว
ที่มา : หนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย ฉบับวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556 หน้า 16
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้