ข่าว/ความเคลื่อนไหว
วันที่ 3 ต.ค. ที่โรงแรมเดอะ สุโกศล ภญ.ปฤษฐพร กิ่งแก้ว นักวิจัยโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ (HITAP) เสนอผลการศึกษาและข้อเสนอเชิงนโยบายการพัฒนานโยบายส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคสำหรับเด็กและเยาวชน อายุ 6-25 ปี ในประเทศไทย หลังเชิญผู้เชี่ยวชาญ 17 หน่วยงาน เช่น กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มาร่วมจัดลำดับความสำคัญของปัญหาสุขภาวะในเด็กและเยาวชน พบ 3 ปัญหาสำคัญ คือ การตั้งครรภ์ในวัยรุ่นและการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ สาเหตุจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย การเปลี่ยนคู่นอน และขาดความรู้เรื่องการคุมกำเนิดที่ถูกต้อง
"ข้อเสนอเชิงนโยบายคือ ต้องพัฒนาฐานข้อมูลการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น เพราะปัจจุบันมีแค่ฐานข้อมูลการคลอดบุตรเท่านั้น ศธ.ต้องพัฒนาทักษะผู้สอนและหลักสูตรเพศศึกษาให้ทันสมัย ส่วน สธ.ต้องพัฒนางานอนามัยเจริญพันธุ์ที่เป็นมิตรกับวัยรุ่น และร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พัฒนาระบบการเข้าถึงถุงยางอนามัย ยาคุมกำเนิดและบริการให้คำปรึกษาที่ปกป้องตัวตนของผู้รับบริการ" นักวิจัยโครงการประเมินเทคโนโลยีฯ กล่าว
ภญ.ปฤษฐพร กล่าวต่อว่า ในส่วนปัญหาความรุนแรง พบว่าจำนวนคดีทำร้ายร่างกายของเด็กที่ถูกส่งเข้าสถานพินิจมีสูงถึง 4,086 คดีต่อปี สาเหตุเกิดจากสารเสพติด โดยเสนอให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พัฒนาระบบเยียวยาเหยื่อความรุนแรง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สนับสนุนสื่อสร้างสรรค์ที่สะท้อนปัญหา และพัฒนาระบบฐานข้อมูลเหยื่อความรุนแรงระหว่างสถานพยาบาลและหน่วยงานท้องถิ่น
"ปัญหาสุขภาพจิต ได้แก่ การติดสารเสพติด การติดเกม โรคสมาธิสั้น ภาวะบกพร่องทางการเรียนรู้ และออทิสติก ซึ่งปัญหาดังกล่าวมีผลกระทบทางเศรษฐกิจรวมหลายแสนล้านบาท โดยเสนอให้สถานพยาบาล สธ.และ สปสช.ร่วมพัฒนาระบบการบำบัดผู้ติดสารเสพติดอย่างทั่วถึง ผลักดันพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กและเยาวชน รัฐบาลกำหนดหน่วยงานรับผิดชอบปัญหาติดเกมในระดับชาติ และ ศธ.ร่วมกับ สธ.พัฒนาระบบคัดกรองโรคสมาธิสั้น ภาวะบกพร่องทางการเรียนรู้ และออทิสติกในโรงเรียน ที่เชื่อมต่อการตรวจยืนยันผลในสถานพยาบาล" ภญ.ปฤษฐพรกล่าว
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2556 หน้า 14
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้