ข่าว/ความเคลื่อนไหว
การพัฒนางานประจำสู่งานวิจัย (Routine to Research) เป็นคำที่ ศ.นพ.วิจารณ์ พานิชR2R" (อาร์-ทู-อาร์) ผู้อำนวยการสถาบันการจัดการความรู้เพื่อสังคม (สคส.) เป็นผู้บัญญัติขึ้นครั้งแรกให้กับโครงการพัฒนางานประจำสู่งานวิจัย คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ซึ่งโครงการนี้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ พ.ศ. 2547 จนกระทั่งถึงปัจจุบัน และเพื่อให้ง่ายต่อการสื่อสาร จึงมักเรียกการทำงานเช่นนี้ว่า "R2R"
ลักษณะการทำงานของโครงการพัฒนางานประจำสู่งานวิจัย เป็นการสนับสนุนการทำงานของทีมที่พัฒนางานประจำในโรงพยาบาลทั้งด้านการศึกษา การรักษา และการบริการให้มีการปรับปรุงการทำงาน โดยใช้กระบวนการวิจัยเป็นเครื่องมือในการทำงานไปสู่การปรับปรุง และพัฒนางานประจำที่ทำอยู่ให้ดีขึ้น ดังนั้น R2R เป็นเพียงแนวคิดหรือเครื่องมือในการพัฒนาระบบคุณภาพ แต่ไม่ใช่ระเบียบวิธีวิจัย มีหลายความคิดเห็นเกี่ยวกับคำนี้ บางคนคิดว่าเป็นการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากงานประจำ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า R2R เป็นการสร้างความรู้จากงานประจำ
ในวงการสุขภาพ ต่างตระหนักดีว่าการบริการทางด้านสาธารณสุขจำเป็นต้องมีการพัฒนาต่อไปและการ พัฒนาที่ดีนั้นควรมีพื้นฐานมาจากหลักฐานทางการวิจัย แต่พอเริ่มคำว่าวิจัย คนทำงาน ส่วนใหญ่ก็อยากถอยห่าง อย่างไรก็ดี ก็ใช่ว่า จะไม่มี คนทำงาน ให้ความสนใจและเริ่ม ทำ R2R ยกตัวอย่างเช่น คุณอุบล จ๋วงพานิช พยาบาลโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น กล่าวถึงการทำ R2R ว่า เมื่อเราทำงาน เราเกิดคำถามในใจ แล้วเราก็ต้องพยายามหาคำตอบ โดยศึกษาค้นคว้างานวิจัยที่มี ถามผู้รู้ แล้วลองมาวางแผนการทำงาน พิสูจน์ด้วยการทำวิจัย เมื่อได้ผลวิจัย แล้วเราก็ต้องนำผลไปลองปฏิบัติดู ถ้าทำได้ดีเราก็นำไปใช้ในการทำงานจริง ระหว่างทำก็พยายามพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ การทำวิจัยในที่ทำงานไม่ยาก เพราะเรามีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยของเรา แต่ต้องการบริหารจัดการให้ดี คุณนิภาพร ลครวงศ์ พยาบาลโรงพยาบาลยโสธร กล่าวถึง ปัญหาของการทำ R2R นั้น คือ การเขียนรายงานการวิจัย นักวิจัยมักไปติดกับดักของเรื่อง ระเบียบวิธีวิจัย... และสถิติ ซึ่งเป็นเรื่องของความเชี่ยวชาญ แต่สำหรับนักวิจัยหน้าใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นกลัวในการทำวิจัย จำเป็นต้องสร้างทัศนคติที่ดีต่อการทำวิจัยเพื่อพัฒนางานประจำ การแนะนำให้นักวิจัยหน้าใหม่ตัดความกังวลเกี่ยวกับการเขียน โดยให้เขียนรายงานในลักษณะเป็นเรื่องเล่าก่อนว่าตนเองทำอะไร ได้ผลอย่างไรก่อนตามหัวข้อของการเขียนรายงานการวิจัย และค่อยขัดเกลาให้เป็นภาษาวิชาการมากขึ้น นับเป็นการค่อยๆ ป้อนความรู้ โดยไม่ให้นักวิจัยหน้าใหม่ตื่นตัวกับการทำวิจัย ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่งที่มีความน่าสนใจ แต่ที่สำคัญที่สุดคือกำลังใจที่จะทำวิจัย ต้องยึดแนวคิดที่ว่าทำงานวิจัยแล้วต้องมีความสุขกับการทำงานนั้นด้วย
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้