ข่าว/ความเคลื่อนไหว
ปัญหาบุคลากรทางการแพทย์ลาออกสูงกลายเป็นภัยคุกคามต่อระบบสาธารณสุขไทยในระยะ 10 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะอัตราการลาออกของแพทย์ใช้ทุนที่สูงถึงเฉลี่ย 297 คนต่อปี ในช่วงหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตเชิงโครงสร้างนี้ คณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา จึงได้จัดงานสัมมนาครั้งสำคัญเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2568 ภายใต้หัวข้อ “แก้วิกฤตกำลังคนสุขภาพไทย เพื่อคนไข้รอดตาย คนไทยสุขภาพดี อายุยืน” ณ โรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ โดยได้รวบรวมบุคลากร ผู้บริหาร และผู้เชี่ยวชาญจากทุกภาคส่วนกว่า 120 คน เพื่อพิจารณาข้อเสนอเชิงนโยบาย 9 ข้อ และร่วมกันจัดลำดับความสำคัญของแนวทางการปฏิรูป
โดยได้รับเกียรติจาก นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ประธานคณะกรรมการฯ วุฒิสภา ได้ปาฐกถาเปิดงาน
โดยระบุถึงความท้าทายที่ระบบสุขภาพไทยต้องเผชิญ ทั้งสังคมสูงวัยที่เพิ่มขึ้น จำนวนผู้ป่วยที่มากขึ้น
ค่ารักษาพยาบาลและค่ายาที่สูงขึ้น ในขณะที่งบประมาณในการดูแลสุขภาพของคนไทยมีจำกัด, ภาระงานที่ล้นเกินจากภาวะการขาดแคลนบุคลากรนี้เองที่ผลักดันให้เกิดการลาออกเพิ่มขึ้น และนำไปสู่ความเสี่ยงที่จะเกิดข้อผิดพลาดในการบริการประชาชน
เวทีเสวนาได้มีการนำเสนอผลการศึกษาของคณะอนุกรรมการฯ พร้อมระบุว่า นอกจากการขาดแคลนและการกระจายตัวของแพทย์ที่ไม่เหมาะสมแล้ว ยังมีการผลักดัน ร่างกฎหมาย พ.ร.บ. คุ้มครองวิชาชีพ เพื่อยกระดับความปลอดภัยและคุ้มครองชั่วโมงการทำงานของแพทย์ โดยมีข้อเสนอให้แพทย์ Intern ไม่ควรทำงานเกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้แสดงข้อกังวลต่อร่างกฎหมายดังกล่าวว่า เช่น “วันเมื่อมันประกาศใช้ เกิดเหตุการณ์จริงขึ้นมา แล้วมันเลยชั่วโมงแล้วแหละ แต่ฉันต้องดูแลคนไข้... คุณหมอคนหลักอยากดูแลคนไข้ แต่ฉันต้องทำผิด พ.ร.บ. นี้หรือเปล่า” สะท้อนถึงความท้าทายในการสร้างสมดุลระหว่างการคุ้มครองบุคลากรและการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉิน
ประเด็นหลักที่ถูกเน้นย้ำในการเสวนาครั้งนี้คือความจำเป็นในการ “ปฏิรูป ระบบจัดการกำลังคนทั้งระบบ” โดยผู้จัดงานได้เสนอแนวทางเชิงกลไก เช่น การจัดทำ Dashboard เพื่อแสดง Workload, Service Load และ Work Force ว่ามีการกระจุตัวหรือขาดแคลนในพื้นที่ใดบ้าง เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด
นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอ 9 ข้อเสนอเชิงนโยบาย ต่อผู้เข้าร่วมสัมมนา เพื่อพิจารณาและจัดลำดับความสำคัญ (Ranking) ซึ่งข้อเสนอเหล่านี้ครอบคลุมตั้งแต่การวางแผนกำลังคนบนฐานภาระงานจริง
การพัฒนาระบบค่าตอบแทน การบูรณาการความร่วมมือภาครัฐ-เอกชน-ประชาชน ไปจนถึงการประเมินผลกระทบเชิงระบบจากนโยบายด้านบริการสุขภาพต่างๆ
เพื่อรับประกันว่าการปฏิรูปจะไม่หยุดอยู่แค่ระดับข้อเสนอ แต่จะนำไปสู่การปฏิบัติจริงอย่างเป็นรูปธรรม ข้อเสนอเชิงโครงสร้างที่สำคัญที่สุดคือการจัดตั้ง คณะกรรมการนโยบายการสุขภาวะแห่งชาติ โดยมีอำนาจในการกำหนดทิศทางการผลิต การใช้ และการธำรงรักษาบุคลากรอย่างครบวงจร
ด้าน ผศ.ดร.จรวยพร ศรีศศลักษณ์ รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ได้กล่าวถึงข้อเสนอเชิงนโยบาย ย้ำว่า การแก้ไขปัญหานี้ต้องมุ่งไปที่ “การปฏิรูประบบจัดการกำลังคนทั้งระบบ” โดยเฉพาะการจัดการข้อมูลและภาระงานให้โปร่งใสและตรงจุด เราจำเป็นที่ต้องมี Dashboard ที่สามารถแสดงผลได้ว่า Service Load, Workload และ Work Force กำลังกระจุกตัวหรือขาดแคลนในพื้นที่ใด เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหา ณ จุดนั้นได้ทันท่วงที
นอกจากการใช้ข้อมูลแล้ว ข้อเสนอเชิงปฏิบัติการยังรวมถึงการเห็นด้วยกับการ ลดภาระงานที่ไม่จำเป็น
ของบุคลากร เพื่อให้แพทย์ พยาบาล และบุคลากรอื่นๆ สามารถมุ่งเน้นไปที่หน้าที่หลักของตนเอง
ในด้านประเด็นเรื่องกฎหมายก็เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดย ผศ.ดร.จรวยพร ได้ตั้งข้อสังเกตต่อร่างกฎหมาย พ.ร.บ. คุ้มครองวิชาชีพ ที่มีข้อเสนอให้จำกัดชั่วโมงการทำงาน ว่าอาจเป็นปัญหาในทางปฏิบัติจริง หากแพทย์ต้องการดูแลผู้ป่วยต่อแม้จะเกินชั่วโมงที่กฎหมายกำหนดไปแล้ว
นอกจากนี้ในเวทีเสวนาเรียกร้องให้องค์ประกอบของคณะกรรมการชุดนี้ ต้องมี "ตัวจริงเสียงจริง เบอร์ 1" จากทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงสาธารณสุข (สธ.), กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.), ก.พ. และ ก.พ.ร. เพื่อให้การตัดสินใจเชิงนโยบายมีความเด็ดขาดและสามารถเดินหน้าต่อไปได้ การสรุปผลและข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปอย่างเป็นทางการจะเกิดขึ้นในช่วงบ่ายของวันสัมมนา ซึ่งเป็นก้าวต่อไปที่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้