ข่าว/ความเคลื่อนไหว
ประเทศไทยมีต้นทุนและทรัพยากร ทั้งในด้านโครงสร้างการบริหารระดับประเทศ และการจัดการทรัพยากรสาธารณสุข ได้แก่ สถานพยาบาลทุกระดับ ตั้งแต่โรงเรียนแพทย์ที่มีศักยภาพสูงไปจนถึงสถานพยาบาลระดับปฐมภูมิที่กระจายอย่างทั่วถึงในทุกภูมิภาค แต่ในศักยภาพที่มี ยังต้องมีการพัฒนาระบบสนับสนุนด้านอื่นๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะการพัฒนาด้านวิจัยทางคลินิกที่ได้มาตรฐานสากลให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยกระจายไปยังสถานพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขที่เติบโตในด้านบริการอย่างรวดเร็ว และมีการดำเนินงานร่วมกันเป็นเครือข่าย ตลอดจนการบริหารจัดการให้เกิดระบบนิเวศที่สนับสนุนให้เกิดการดำเนินการวิจัยทางคลินิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนานโยบายและองค์ความรู้ที่ทำให้ประชาชนมีโอกาสในการเข้าถึงนวัตกรรมสุขภาพใหม่ๆ ได้มากและรวดเร็วขึ้น
โดยเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 - สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อขยายศูนย์วิจัยทางคลินิกภายใต้สังกัดกระทรวงสาธารณสุข โดยมี นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ลงนามร่วมกับ นายโรมัน รามอส ประธานบริษัทประจำประเทศไทย บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด และ นายเบน มอร์ลี่ย์ ที่ปรึกษาและผู้อำนวยการแผนกธุรกิจและการค้า สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุมสานใจ 1/1 ชั้น 6 อาคารสุขภาพแห่งชาติ
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข กล่าวว่า สวรส. ในฐานะหน่วยบริหารจัดการทุนวิจัยระบบสุขภาพของประเทศ และเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนการวิจัยทางคลินิกของประเทศไทย (Thailand Clinical Research Collaboration หรือ Thailand CRC) ซึ่งภารกิจด้านหนึ่งคือ การผลักดันและสนับสนุนให้เกิดระบบนิเวศการวิจัยที่เอื้อต่อการสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่จะสามารถขับเคลื่อน และนำไปสู่การพัฒนานโยบายและนวัตกรรมด้านสุขภาพที่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง ภายใต้การดำเนินงานร่วมกับเครือข่ายหลักที่สำคัญอย่างโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้การขยายศูนย์วิจัยทางคลินิกให้ครอบคลุมโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขมากขึ้น และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการวิจัย การเสริมสร้างศักยภาพของบุคลากร ตลอดจนการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจด้านการวิจัยทางคลินิกที่ถูกต้องให้แก่ประชาชน จะช่วยยกระดับให้การวิจัยทางคลินิกของประเทศไทยก้าวสู่มาตรฐานสากล
“ความร่วมมือกันในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงพลังของการบูรณาการร่วมกันของภาครัฐและเอกชน ที่มองเป้าหมายเดียวกัน คือการเพิ่มขีดความสามารถและการยกระดับศักยภาพของประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านการวิจัยทางคลินิกระดับสากล ภายใต้การดำเนินงานอย่างมีมาตรฐานของโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาระบบสุขภาพให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน พร้อมกับเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้เข้าถึงนวัตกรรมการรักษาใหม่ๆ ในเวลาเดียวกัน” นพ.ศุภกิจ กล่าว
นายโรมัน รามอส ประธานบริษัทประจำประเทศไทย บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การทดลองทางคลินิกถือเป็นกลไกหลักในการนำการรักษาเชิงนวัตกรรมมาสู่ผู้ป่วย การขยายศูนย์วิจัยคลินิกไปยังโรงพยาบาลภายใต้สังกัดกระทรวงสาธารณสุขจะช่วยให้การวิจัยสามารถเข้าถึงผู้ป่วยได้เป็นจำนวนมากและมีความหลากหลายของผู้ป่วยมากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการศึกษาวิจัย โดยแอสตร้าเซนเนก้าพร้อมที่จะสนับสนุนการถ่ายทอดความรู้ที่จำเป็นสำหรับบุคลากรด้านการวิจัยของโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่เข้าร่วมโครงการ และสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการวิจัยทางคลินิกจากต่างประเทศ เพื่อดึงการทดลองทางคลินิกในระดับโลกเข้ามาดำเนินการในประเทศไทยมากขึ้น
“แอสตร้าเซนเนก้า เห็นถึงศักยภาพด้านการวิจัยทางคลินิกของประเทศไทย จึงเชื่อมั่นว่าความร่วมมือกับ สวรส. ในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาและการดำเนินการวิจัยทางคลินิกในประเทศไทยให้มีมาตรฐาน และมีศักยภาพในการรองรับการลงทุนทางด้านการวิจัยทางคลินิกมากขึ้น รวมทั้งเพิ่มโอกาสให้คนไทยสามารถเข้าถึงยาที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ และมีข้อมูลที่สะท้อนลักษณะประชากรไทยอย่างแท้จริง” นายโรมัน รามอส กล่าว
การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในวันนี้ นับเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาระบบวิจัยทางคลินิกในประเทศไทยให้มีมาตรฐาน และสามารถยกระดับการดูแลสุขภาพ โดยจะมีการดำเนินงานสำคัญร่วมกัน อาทิ การเพิ่มศักยภาพและความพร้อมของโรงพยาบาลภายใต้สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สามารถรองรับการวิจัยทางคลินิกได้มากขึ้น สนับสนุนการฝึกอบรมและกิจกรรมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เพื่อพัฒนาทักษะและมาตรฐานของบุคลากรวิจัย สนับสนุนการคัดเลือกศูนย์วิจัยทางคลินิก โดยใช้ข้อมูลสุขภาพระดับประเทศที่ครอบคลุมและเป็นระบบ ยกระดับการรับรู้และการมีส่วนร่วมของผู้ป่วยในงานวิจัยทางคลินิก โดยปฏิบัติตามมาตรฐานด้านจริยธรรมและกฎหมายอย่างเคร่งครัด เป็นต้น ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าวจะส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน ตลอดจนสร้างความเข้มแข็งและความยั่งยืนของระบบสุขภาพไทยในระยะยาว
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้