ชั้น 4 อาคารสุขภาพแห่งชาติ เลขที่ 88/39 ถ.ติวานนท์ 14 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
ขนาดตัวอักษร
-
+
ความตัดกันของสี
C
C
C
icon-lang-thภาษาไทย
ค้นหา
เมนู

สปสช. และ สวรส. ผนึกกำลังยกระดับ "ทะเบียนประสาทหูเทียม" ขับเคลื่อนอนาคตการได้ยินของเด็กไทย 👂👶

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมกับสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ การศึกษาติดตามผลการติดตามการดำเนินนโยบาย และขับเคลื่อนการเข้าถึงบริการตรวจคัดกรองการได้ยินและการผ่าตัดประสาทหูเทียมในเด็กแรกเกิดที่ครอบคลุม ในวันอังคารที่ 15 กรกฎาคม 2568 ณ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร การประชุมครั้งนี้มุ่งเน้นการวิเคราะห์และการติดตามการดำเนินนโยบายและขับเคลื่อนการเข้าถึงบริการตรวจคัดกรองการได้ยินและการผ่าตัดประสาทหูเทียมในเด็กแรกเกิดที่ครอบคลุมเชิงประสิทธิผลของชุดสิทธิประโยชน์ด้านการคัดกรองการได้ยินในทารกแรกเกิด การฟื้นฟูการได้ยิน และการผ่าตัดฝังประสาทหูเทียมในประเทศไทย


ในงานได้รับเกียรติจาก นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. เป็นประธานกล่าวเปิดงานและชี้แจงวัตถุประสงค์ของการประชุม โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเข้าถึงบริการด้านการได้ยินสำหรับเด็กแรกเกิด ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญต่อพัฒนาการในระยะยาว โดย "นพ.จเด็จ กล่าวว่า สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้ความสำคัญกับการตรวจคัดกรองการได้ยินในเด็กอย่างครบวงจร ตั้งแต่การคัดกรอง วินิจฉัย ไปจนถึงฟื้นฟู โดยมีเป้าหมายผ่าตัดฝังประสาทหูเทียมปีละ 300 ราย เพื่อให้เด็กที่มีปัญหาทางการได้ยินสามารถพัฒนาทักษะการพูดได้ แม้การดำเนินงานจะยังมีความท้าทาย โดยปัจจุบันประเทศไทยมีการคัดกรองการได้ยินได้เพียง 55% เทียบกับออสเตรียที่ใช้เวลา 15 ปีในการคัดกรองได้ 100% แต่ สปสช. มุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับสหสาขาวิชาชีพและบุคลากรทุกฝ่าย เพื่อให้เด็กทุกคนที่มีปัญหาได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที โดยหวังว่าข้อมูลจากการศึกษาของ HITAP และผลการประชุมครั้งนี้จะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายการคัดกรอง 100% ในอนาคต"  การประชุมครั้งนี้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญและภาคีเครือข่ายจากหลายหน่วยงาน เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาการได้ยินบกพร่องในเด็กแรกเกิดของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพัฒนาสุขภาพแบบครบวงจรสำหรับการคัดกรองการได้ยินในทารกแรกเกิด การฟื้นฟูการได้ยิน และการผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม
 

จากงานวิจัยสู่สิทธิประโยชน์: 10 ปี แห่งความมุ่งมั่นเพื่อเด็กไทย

การสูญเสียการได้ยินในเด็กแรกเกิดเป็นปัญหาสาธารณสุขระดับโลกที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน องค์การอนามัยโลกชี้ว่าเด็กแรกเกิด 1-2 คนต่อ 1,000 คน ประสบภาวะสูญเสียการได้ยิน และในกลุ่มเสี่ยง อัตรานี้จะเพิ่มสูงถึง 10-20 เท่า หากไม่ได้รับการตรวจคัดกรองและรักษาอย่างทันท่วงที จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อพัฒนาการด้านภาษา สติปัญญา อารมณ์ และการใช้ชีวิตในสังคมของเด็ก กระทรวงสาธารณสุขตระหนักถึงปัญหานี้และได้บรรจุการตรวจคัดกรองการได้ยินในเด็กแรกเกิดไว้ในแผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุขตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา

ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา สวรส. ได้ทุ่มเทให้กับการพัฒนางานวิจัยด้านการได้ยินอย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนนโยบายและสิทธิประโยชน์สำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของเด็กไทย โดยเฉพาะในเด็กแรกเกิดที่มีความเสี่ยงต่อการได้ยิน ซึ่งงานวิจัยของ สวรส. ได้ดำเนินการครอบคลุมทั้งด้านเทคโนโลยีเครื่องมือ, ระบบข้อมูล, เครือข่ายระบบบริการและกำลังคน, รวมถึงการประเมินความคุ้มค่า โดยความมุ่งมั่นนี้ได้ก่อให้เกิดผลงานสำคัญ อาทิ

ด้านนโยบายและสิทธิประโยชน์: ผลักดันให้เกิดนโยบายและสิทธิประโยชน์การคัดกรองการได้ยินในทารกแรกเกิด (NBHS) และการผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม (CI) ภายใต้การดูแลของ สปสช. โดยในปี 2564 สปสช. ได้ประกาศให้การคัดกรองการได้ยินในเด็กแรกเกิดเป็นสิทธิประโยชน์สำหรับกลุ่มเสี่ยงสูง และขยายครอบคลุมการตรวจคัดกรองในเด็กแรกเกิดทุกคนในปีถัดมา พร้อมทั้งประกาศสิทธิประโยชน์เรื่องการผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม ซึ่งครอบคลุมทั้งค่าบริการและค่าอุปกรณ์

ด้านเทคโนโลยีและฐานข้อมูล: พัฒนาเครื่องมืออย่าง PASSPro, ฐานข้อมูลทะเบียนประสาทหูเทียมประเทศไทย (CIRT), และฐานข้อมูลสำหรับการคัดกรองการได้ยินเด็กแรกเกิด (NBHS) นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาแอปพลิเคชัน HearWHOApp และแอปเกมฝึกฟังพูด เพื่อสนับสนุนการฟื้นฟู

ด้านวิชาการและการตีพิมพ์: มีผลงานตีพิมพ์และนำเสนอในงานประชุมวิชาการอย่างต่อเนื่อง

ด้านเครือข่ายความร่วมมือ: สร้างเครือข่ายวิจัยที่แข็งแกร่งกับมหาวิทยาลัยและโรงพยาบาลต่างๆ

โดยเส้นทางการพัฒนาได้เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2558-2559 ด้วยการพัฒนาเครือข่ายค้นหาและฟื้นฟูการได้ยิน, วางแผนเพิ่มนักเวชศาสตร์สื่อความหมาย, และพัฒนาอุปกรณ์คัดกรองการได้ยินเด็กปฐมวัย จากนั้นในปี 2560-2561 ได้มีการสร้างทะเบียนประสาทหูเทียมประเทศไทย (CIRT) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการติดตามและจัดการข้อมูลผู้ป่วย ต่อมาในปี 2562-2563 มีการประเมินความพร้อมการให้บริการ CI และความคุ้มค่าของการขยายบริการตรวจคัดกรองการได้ยินเด็กแรกเกิด ปัจจุบัน (2566-2567) มีการติดตามผลการดำเนินนโยบาย, ทดสอบประสิทธิผลของ PassProApp, และประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็กที่ใช้ CI


"ทะเบียนประสาทหูเทียม": กุญแจสำคัญสู่การรักษาที่เหมาะสม

เพื่อให้เด็กที่เกิดมาพร้อมความบกพร่องทางการได้ยินได้รับการดูแลอย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ สปสช. ได้กำหนดสิทธิประโยชน์การคัดกรอง การวินิจฉัย การรักษา และการฟื้นฟูสมรรถภาพอย่างเป็นระบบ โดยมี "ทะเบียนประสาทหูเทียมประเทศไทย" หรือ CIRT เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่เข้ามาช่วยสนับสนุนการเข้าถึงบริการผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม ซึ่งระบบนี้เป็นผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยและขับเคลื่อนเชิงนโยบายจาก สวรส. โดยวัตถุประสงค์หลักของระบบนี้คือการตรวจสอบความเหมาะสมและความพร้อมของผู้ป่วยก่อนการผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม ซึ่งเรียกว่าระบบ pre-authorization (PA) ด้วยกระบวนการนี้ ทำให้ระบบทะเบียนประสาทหูเทียมมีบทบาทสำคัญในการควบคุมและจัดสรรทรัพยากรการผ่าตัดประสาทหูเทียมให้เกิดประโยชน์สูงสุด และมั่นใจว่าเด็กจะได้รับการรักษาที่เหมาะสมตามเกณฑ์ที่กำหนด เช่น เด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี ที่มีระดับการได้ยิน 90 เดซิเบลขึ้นไปและไม่เคยฝึกภาษามือ


ความท้าทายและการพัฒนาระบบเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
แม้ว่างานวิจัยเรื่องระบบทะเบียนประสาทหูเทียมจะนำไปสู่การผลักดันเป็นสิทธิประโยชน์แล้ว แต่การดำเนินงานยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ สปสช. ตั้งไว้ โดยเฉพาะจำนวนการผ่าตัดฝังประสาทหูเทียมที่ตั้งเป้าไว้ปีละ 300 ราย แต่ว่ายังคงพบปัญหาอุปสรรคอยู่บ้าง เช่น ความรับรู้นโยบายของผู้ให้บริการและประชาชนที่แตกต่างกัน, ภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนในส่วนที่ไม่ครอบคลุมสิทธิประโยชน์, และจำนวนผู้ให้บริการที่ไม่เพียงพอ

จากการศึกษาพบว่า ระบบทะเบียนประสาทหูเทียมประเทศไทย (CIRT) ถูกนำมาใช้ในการบันทึกข้อมูลเพื่อทำ Pre-authorization ก็จริง แต่ยังไม่ได้มีการบันทึกข้อมูลเพื่อติดตามผลลัพธ์หลังผ่าตัดประสาทหูเทียมอย่างครบถ้วน นอกจากนี้ ยังขาดการรวบรวมข้อมูลเด็กที่มีอายุเกินเกณฑ์ที่ สปสช. กำหนดให้ผ่าตัดฝังประสาทหูเทียมได้ และสิ่งที่น่ากังวลและต้องได้รับการแห้ไข คือ ปัญหาด้านความน่าเชื่อถือของข้อมูลในระบบ ซึ่งยังเป็นข้อมูลที่มีความคลาดเคลื่อนในการวินิจฉัยค่อนข้างมาก โดยพบว่าหลังตรวจวินิจฉัย พบว่ามีเด็กที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยการใส่เครื่องช่วยฟังหรือผ่าตัดฝังประสาทหูเทียมมีเพียงประมาณ 25% เท่านั้น ส่วนที่เหลืออีก 75% เป็นข้อมูลที่มีความคลาดเคลื่อนทำให้ไม่สามารถดำเนินการรักษาได้อย่างถูกต้อง ทั้งนี้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนนี้ทำให้การประเมินสถานการณ์และการวางแผนในภาพรวมทำได้ยากขึ้น

เวทีระดมสมองเพื่ออนาคตการได้ยินของเด็กไทย เพื่อแก้ไขปัญหาและยกระดับการให้บริการ การประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้จึงจัดให้มีกิจกรรมตลอดทั้งวันเพื่อระดมความคิดเห็นและหาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างรอบด้าน กิจกรรมประกอบด้วย 

การบรรยายหัวข้อ Case Studies & Discussion I: ชวนคิดชวนคุยเพื่อพิจารณาสถานการณ์การทำงานเพื่อพัฒนาระบบสุขภาพแบบครบวงจรสำหรับการคัดกรองการได้ยินในทารกแรกเกิด การฟื้นฟูการได้ยิน และการผ่าตัดฝังประสาทหูเทียมในประเทศไทย
        โดยวิทยากรที่ดำเนินโครงการวิจัยการศึกษาติดตามผลการติดตามการดำเนินนโยบาย และขับเคลื่อนการเข้าถึงบริการตรวจคัดกรองการได้ยินและการผ่าตัดประสาทหูเทียมในเด็กแรกเกิดที่ครอบคลุม  โดย ศ.พญ.ขวัชนก  ยิ้มแต้  คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ,น.ส.แพรว  เอื่ยมน้อย นักบริหารโครงการอาวุโส (สวรส.) และดร.ภญ.ปฤฐพร  กิ่งแก้ว นักวิจัโครงการประระเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ (HITAP) ร่วมบรรยายข้อค้นพบจากการศึกษาผลการติดตามการดำเนินนโยบาย และขับเคลื่อนการเข้าถึงบริการตรวจคัดกรองการได้ยินและการผ่าตัดประสาทหูเทียมในเด็กแรกเกิดที่ครอบคลุม 

และกิจกรรม Hopes and Fears: การแลกเปลี่ยนความหวังและความกังวลต่อสถานการณ์ของการพัฒนาระบบสุขภาพแบบครบวงจรสำหรับทารกแรกเกิดที่สูญเสียการได้ยิน โดย อ.นพ.ณัฐวุฒิ เอี่ยงธนรัตน์ /น.พ.ภาณุวิชญ์ แก้วกำจรชัย/รศ.ดร.นพ.บวรศม  ลีระพันธ์ เป็นวิทยากรในการบรรยายและดำเนินกิจกรรม โดยมีโจทย์: ภาพที่ทุกคนอยากเห็น ระบบบริการสุขภาพที่ครบวงจรสำหรับผู้ป่วยเด็กแรกเกิดที่สูญเสียการได้ยิน เรามีความหวังและความกังวล เรื่องอะไร? และให้ผู้เข้าร่วมประชุมเขียนสิ่งที่หวัง

กิจกรรม Lightning Talk: สะท้อนบทบาทของตนเองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อประสบการณ์การทำงาน โดย รศ.ดร.นพ.บวรศม ลีระพันธ์ ได้นำเสนอผังแนวทางการบริการตรวจคัดกรองฯ และเปิดให้ผู้เข้าร่วมประชุมแสดงข้อคิดเห็นเพื่อนำไปปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

กิจกรรม Group Process I: ระบุเป้าหมายการทำงานและจุดคานงัดในระบบสุขภาพเพื่อการแก้ไขปัญหาเชิงระบบอย่างยั่งยืน โดย อ.นพ.ภาณุวิชญ์ แก้วกำจรชัย 

กิจกรรม Discussion II: ชวนคิดชวนคุยเพื่อพิจารณาและการประยุกต์ใช้แนวคิด “ระบบสุขภาพแบบเน้นคุณค่า” เพื่อออกแบบนโยบายและพัฒนาระบบสำหรับกลุ่มทารกแรกเกิดที่สูญเสียการได้ยิน โดย รศ.ดร.นพ.บวรศม ลีระพันธ์


 กิจกรรม Discussion III: อภิปรายเพื่อทำความเข้าใจสาเหตุของปัญหาเชิงระบบที่มีผลต่อความครอบคลุมเชิงประสิทธิผล (Effective Coverage) สำหรับการคัดกรองการได้ยินในทารกแรกเกิด การฟื้นฟูการได้ยิน และการผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม โดย รศ.ดร.นพ.บวรศม ลีระพันธ์ 


 กิจกรรม Group Process II: ระดมสมองเพื่อระบุนโยบาย แผนงาน โครงการ หรือการจัดการซึ่งมีศักยภาพเป็น “คาดดีดคานงัด” ในการพัฒนาความครอบคลุมเชิงประสิทธิผลของการคัดกรองการได้ยินเด็กแรกเกิดและการผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม โดย อ.นพ.ภาณุวิชญ์ แก้วกำจรชัย 


กิจกรรม Group Process III: ระดมสมองเพื่อระบุปฏิกิริยาของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อนโยบาย แผนงาน โครงการ หรือการจัดการเพื่อพัฒนาความครอบคลุมเชิงประสิทธิผลของการคัดกรองการได้ยินเด็กแรกเกิดและการผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม โดย อ.นพ.ภาณุวิชญ์ แก้วกำจรชัย โดยได้มีการระดมสมองแนวทางและกระบวนการตรวจคัดกรอง ,ตลอดจนงานวิจัยที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาในแต่ละกระบวนการ 


และ Wrap-Up: What's Next?: ชวนคิดชวนคุยเพื่อถอดบทเรียนและปรึกษาหารือแนวทางการทำงานร่วมกันต่อไป โดย ทพ.จเร  วิชาไทย ผู้จัดการงานวิจัย และรศ.ดร.นพ.บวรศม ลีระพันธ์ 

"สร้างรอยยิ้ม สู่คุณภาพชีวิตที่ดีกว่า"


การพัฒนาระบบทะเบียนประสาทหูเทียมประเทศไทยถือเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายการได้ยินในเด็กแรกเกิด... อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ จำเป็นต้องมีการปรับปรุงระบบทะเบียนประสาทหูเทียมให้สามารถบันทึกและติดตามผลลัพธ์หลังผ่าตัดได้อย่างครบวงจร รวมถึงการจัดการข้อมูลให้มีความน่าเชื่อถือและเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ผ่านความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยในการประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นกระบวนการสำคัญที่จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถประเมินผลการดำเนินนโยบายได้อย่างแม่นยำ และวางแผนการขับเคลื่อนการเข้าถึงบริการตรวจคัดกรองการได้ยินและการผ่าตัดประสาทหูเทียมในเด็กแรกเกิดให้ครอบคลุมอย่างมีประสิทธิผล เพื่อสร้างรอยยิ้มที่เปี่ยมสุขให้กับเด็กที่มีปัญหาทางการได้ยินของไทยต่อไป

รูปภาพเพิ่มเติม
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
(Strictly Necessary Cookies) เปิดใช้งานตลอด

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้