สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.)

สวรส. ผนึกภาคีร่วมสร้างอนาคตระบบบริการสุขภาพไทยที่ยั่งยืน

สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ผนึกภาคีสุขภาพร่วมมองทิศทางอนาคตระบบสุขภาพไทย ผ่านหัวข้อเสวนา "The Future Sustainability in Thailand Healthcare System" ในการประชุมวิชาการ HA National Forum ครั้งที่ 25 โดยมีผู้บริหารองค์กรภาคีในระบบสุขภาพ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข นพ.สุเทพ เพชรมาก เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ร.อ.นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ นพ.พงษ์ศักดิ์ นิติการุญ ผู้อำนวยการกองบริหารการสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข และ พญ.ปิยวรรณ ลิ้มปัญญาเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) ร่วมให้มุมมองตามภารกิจของแต่ละองค์กร ณ ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข กับหัวข้อ "Sustainable Health Systems: The Role of Research in Shaping Thailand’s Future กำหนดอนาคตประเทศไทยด้วยงานวิจัยเพื่อระบบบริการสุขภาพที่ยั่งยืน" โดย ผอ.สวรส.ได้หยิบยกข้อมูลสำคัญที่ส่งผลต่อระบบสุขภาพ อาทิ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในโลกปัจจุบันที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น AI, ChatGPT, DeepSeek ฯลฯ ข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพกับอายุคาดเฉลี่ยตั้งแต่แรกเกิด ปัจจัยลำดับต้นๆ ที่ส่งผลต่อการสูญเสียสุขภาพของคนไทย ได้แก่ น้ำตาลในเลือดสูง บุหรี่ เหล้า ความดันโลหิตสูง โดยสิ่งที่ส่งผลต่อสุขภาพมากที่สุดคือ พฤติกรรมส่วนบุคคล นอกนั้นเป็นเรื่องของพันธุกรรม สิ่งแวดล้อม และการดูแลในระบบสุขภาพ ด้านสถานการณ์สังคมและปัญหาของระบบสุขภาพที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ เช่น สังคมสูงอายุ เมื่อคนมีอายุยืนมากขึ้น ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพก็สูงตาม อัตราการเกิดที่น้อยลง โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ซึ่งจากข้อมูลการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยพบว่า ความชุกของผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงในคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป มีความชุกของโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงเพิ่มขึ้น และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะพัฒนาไปสู่การเป็นโรคไต โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจตามมา

"สำหรับการร่วมสร้างอนาคตของระบบบริการสุขภาพที่ยั่งยืนนั้น สวรส. ในฐานะที่เป็นภาคีด้านการวิจัยในระบบสุขภาพ เรามุ่งเน้นสนับสนุนทุนวิจัยที่เป็นการพัฒนาเชิงระบบ ซึ่งขณะนี้มีประเด็นสำคัญที่กำลังขับเคลื่อน อาทิ การวิจัยทางคลินิกของประเทศไทย (Thailand Clinical Research Collaboration หรือ Thailand CRC) เพื่อเพิ่มโอกาสที่ดีในการรักษาพยาบาลให้แก่คนไทย และเพิ่มโอกาสการลงทุนด้านวิจัยให้กับประเทศ การขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการบูรณาการจีโนมิกส์ประเทศไทย ระยะที่ 2 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นการดำเนินงานต่อเนื่องจากระยะที่ 1 การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของประเทศ และเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน การประเมินเทคโนโลยีด้านสุขภาพ (Health Technology Assessment: HTA) และการทำ Early HTA การดูแลสุขภาพโดยเน้นคุณค่า (Value Based Health care) ซึ่งเป็นการทบทวนกระบวนการดำเนินงานทั้งระบบเพื่อการจ่ายชดเชยให้กับสถานพยาบาลอย่างสมเหตุสมผล การพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น ฯลฯ และนอกจากการขับเคลื่อนงานวิจัยแล้ว สวรส. ยังให้ความสำคัญกับการสร้างและพัฒนานักวิจัยในระบบสุขภาพให้มีจำนวนมากขึ้น โดย สวรส. จะมีระบบสนับสนุนนักวิจัยหน้าใหม่ ซึ่งจะเป็นระบบพี่เลี้ยงที่คอยช่วยแนะนำเพื่อให้เกิดการสร้างงานวิจัยที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็จะมาสนับสนุนให้เกิดงานวิจัยที่จะมาช่วยหาทางออกหรือสร้างแนวทางในการทำให้ระบบบริการสุขภาพมีความยั่งยืนในอนาคตด้วยข้อมูลด้านวิชาการ" นพ.ศุภกิจ กล่าว