ข่าว/ความเคลื่อนไหว
ในการประชุมวิชาการนานาชาติรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลปี 2568 หรือ Prince Mahidol Award Conference: PMAC 2025 ภายใต้หัวข้อหลัก “Harnessing Technologies in an Age of AI to Build A Healthier World” หรือ การใช้เทคโนโลยีในยุคปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อสร้างโลกที่สุขภาพดีขึ้น ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 ม.ค. - 2 ก.พ. 2568 สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) โดยแผนวิจัยระบบยา ได้ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และหน่วยงานเครือข่าย อาทิ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สภาเภสัชกรรม สภาการพยาบาล ฯลฯ จัดประชุมวิชาการย่อย (Side Meeting) ใน 3 ประเด็นที่น่าสนใจ ได้แก่ 1) Leveraging Technological Innovation for Health Promotion and Disease prevention: Insights from Asia-Pacific 2) Strengthening Primary Healthcare through Pharmacies: Global Experiences and Innovations for UHC 3) Community Nurse: High-Tech & High-Touch Approach for Health Equity เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับเครือข่ายนานาชาติ ในประเด็นเกี่ยวกับนวัตกรรมบริการเพื่อเสริมสร้างระบบสุขภาพปฐมภูมิ และเป็นประโยชน์ให้กับแต่ละประเทศที่เข้าร่วมประชุม ได้นำแนวคิดและตัวอย่างการดำเนินงานไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาและยกระดับระบบสุขภาพของประเทศตนเองต่อไป เมื่อวันที่ 28 และ 29 ม.ค. 2568 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์
ทั้งนี้ในการประชุม Side Meeting ประเด็น Strengthening Primary Healthcare through Pharmacies: Global Experiences and Innovations for UHC เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การดำเนินงานของแต่ละประเทศ ซึ่งนับเป็นโอกาสสำคัญในการเชื่อมต่อ เรียนรู้ และทำงานร่วมกันในระดับภูมิภาค โดยสนับสนุนบทบาทของร้านยาในการสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบการดูแลสุขภาพปฐมภูมิ และระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (Universal Health Coverage: UHC) โดยมีการนำเสนอตัวอย่างการดำเนินงานในร้านยา โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายประเทศ อาทิ แคนาดา สหราชอาณาจักร แอฟริกาใต้ ออสเตรเลีย กาตาร์ และไทย ส่วนประเด็น Community Nurse: High-Tech & High-Touch Approach for Health Equity เป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การดำเนินงานด้านการพยาบาลชุมชนที่สนับสนุนให้เกิดความเสมอภาคด้านสุขภาพ โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และไทย
ดร.ภญ.นพคุณ ธรรมธัชอารี ผู้จัดการงานวิจัยอาวุโส กล่าวถึงภาพรวมของการประชุมทั้ง 3 ประเด็นว่า สวรส. และหน่วยงานเครือข่ายได้ร่วมกันจัดการประชุม Side Meeting ในการประชุม PMAC ปีนี้ โดยมุ่งเน้นที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเรื่องของนวัตกรรมบริการ และการใช้เทคโนโลยีในการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ทั้งประเด็นการดูแลตนเอง (self-care) ของประชาชน บทบาทของเภสัชกรที่ร้านยา และบทบาทของพยาบาลในชุมชน ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนให้การดูแลสุขภาพปฐมภูมิมีความเข้มแข็งมากขึ้น โดยประเด็น Leveraging Technological Innovation for Health Promotion and Disease prevention: Insights from Asia-Pacific มีประเด็นแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการดูแลสุขภาพของประชาชนด้วยตนเอง ตัวอย่างเช่น ประเทศสิงคโปร์ มีการใช้ smart watch ในการติดตามข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล เช่น การเดิน การออกกำลังกาย การนอน การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ฯลฯ ด้านประเทศญี่ปุ่น มีการใช้แอปพลิเคชันในการช่วยดูแลสุขภาพกลุ่มผู้สูงอายุ เช่น ใช้แอปพลิเคชันในการฝึกสมอง, ติดตามข้อมูลสุขภาพของตนเอง และแอปพลิเคชันมีการแจ้งเตือนให้เข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม เพื่อลดความเสี่ยงเรื่องภาวะซึมเศร้า ฯลฯ ซึ่งเทคโนโลยีในการดูแลสุขภาพดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของระบบหลักประกันสุขภาพของประเทศ
ดร.ภญ.นพคุณ กล่าวต่อว่า สำหรับประเด็น Strengthening Primary Healthcare through Pharmacies: Global Experiences and Innovations for UHC และ Community Nurse: High-Tech & High-Touch Approach for Health Equity เป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การดำเนินงานในบทบาทของเภสัชกรร้านยา และพยาบาลในชุมชน ซึ่งนับเป็นวิชาชีพที่สามารถช่วยแบ่งเบาภาระงานจากแพทย์ในการดูแลสุขภาพประชาชนเบื้องต้น กรณีเจ็บป่วยเล็กน้อยได้ ตัวอย่างนวัตกรรมบริการที่น่าสนใจในต่างประเทศ ได้แก่ การขยายบทบาทให้เภสัชกรสามารถสนับสนุนเรื่องการดูแลสุขภาพปฐมภูมิได้อย่างครบวงจร เช่น นอกจากจ่ายยาแล้ว ยังสามารถสั่งตรวจทางห้องปฏิบัติการได้ สามารถฉีดวัคซีนได้ เป็นต้น ทั้งนี้มีผลวิจัยชัดเจนว่า การให้บริการดังกล่าว ทำให้ประชาชนมีความสะดวกในการรับบริการ โดยที่ยังได้รับบริการไม่ต่างจากที่โรงพยาบาล ประชาชนมีความพึงพอใจในระดับสูง รวมทั้งมีความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ ด้านบทบาทของพยาบาลในชุมชน ตัวอย่างเช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา มีการวิจัยที่เน้นการขับเคลื่อนเรื่องคลินิกพยาบาลในชุมชน และแต่ละประเทศมีการนำเสนอตัวอย่างนวัตกรรมบริการที่น่าสนใจเช่น ดูแลผู้ป่วยจิตเวชในชุมชนอย่างต่อเนื่อง การดูแลประคับประคองในผู้ป่วยระยะท้าย การดูแลและให้บริการผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกลที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการในสถานพยาบาลได้ เช่น การทำแผลผู้ป่วยติดเตียง หรือกลุ่มที่ต้องการการดูแลแผลเป็นพิเศษ ซึ่งนวัตกรรมบริการดังกล่าวนอกจากจะส่งเสริมการดูแลสุขภาพปฐมภูมิแล้ว ยังเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการสุขภาพได้อย่างเท่าเทียมอีกด้วย โดยในประเทศไทยยังมีโอกาสในการพัฒนารูปแบบบริการของเภสัชกรร้านยาและคลินิกพยาบาลอีกมาก
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้