สถาบันวิจัยระบสาธารณสุข (สวรส.) นำ 3 นวัตกรรมเทคโนโลยีทางการแพทย์ ซึ่งเป็นผลลัพธ์ภายใต้โครงการการสนับสนุนการวิจัยที่ถูกนำไปสู่การใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ จำนวน 3 บูธ ดังนี้
1.บูธ MH23 จัดแสดง นวัตกรรมหุ่นยนต์กึ่งอัตโนมัติจับเลื่อยตัดกระดูก (OrthoAssist) ถือเป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ยังไม่มีวางขายในประเทศไทย และถูกสร้างมาเพื่อการแก้ปัญหาการผ่าและตัดกระดูกผู้ป่วย ซึ่งมีความแข็ง ให้เกิดความแม่นย่ำ และลดการสูญเสียมวลกระดูกได้มากขึ้น   
2.บูธ MH24 จัดแสดง ข้อสะโพกเทียมชนิดไบโพล่าแบบไม่ใช่ซีเมนต์ยึดกระดูก (CEMENTLESS BIPOLAR HIP PROSTHESIS) มีจุดเด่นด้วยการออกแบบจากโครงสร้างกระดูกของคนไทย มีน้ำหนักเบาทำให้เมื่อนำไปใช้จะเกิดประสิทธิภาพต่อการรักาาที่ดีกว่าการนำเข้าข้อต่อกระดูกจากต่างประเทศที่ออกแบบตามสรีระของชาวต่างชาติที่มีขนาดใหญ่กว่าของคนไทย อีกทั้งช่วยลดงบประมาณได้อีกด้วย  
3.บูธ MH31จัดแสดง ระบบบูรณาการปัญญาประดิษฐ์เพื่อการคัดกรองเบาหวานเข้าจอตา ในประเทศไทย ที่เป็นนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ หรือ (AI) นี้ชื่อว่า ARDA ที่มีความแม่นยำสูงถึง 95% ต่อการคัดกรองเบาหวานของจอประสาทตา โดยปัจจุบันได้ถูกนำไปใช้ ณ ศูนย์การแพทย์มากกว่า 40 แห่ง ทั่วประเทศไทย
และ บูธแนะนำ สวรส. ภายใต้หัวข้อการนำเสนอ "สวรส. กับการพัฒนาระบบสุขภาพไทยด้วยงานวิจัยคุณภาพ" 
 ร่วมจัดงาน "มหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยและนวัตกรรม ประจำปี 2567 (TRIUP Fair 2024)" ภายใต้แนวคิด : "Impact Journey to Ignite Thailand : เส้นทางจากงานวิจัยและนวัตกรรมสู่การยกระดับเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ" ที่จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม หรือ สกสว. ระหว่างวันที่ 24-26 กันยายน 2567 ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ 1-3 ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน กรุงเทพฯ  ร่วมกับหน่วยบริหารจัดการทุน (PMU) ทั้ง 9 แห่ง และหน่วยงานภาคีเครือข่ายในระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ผนึกกำลังสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เอกชนกว่า 50 หน่วยงาน เวทีเสวนาและการอบรมต่าง ๆ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการและนักวิจัย โดยวิทยากรทั้งในและต่างประเทศกว่า 40 ท่าน กิจกรรม Audition คัดเลือกผลงานวิจัยและนวัตกรรมให้เข้าร่วมรายการ Shark Tank Thailand รวมทั้งการจำหน่ายสินค้านวัตกรรมเพื่อกระตุ้นการใช้ผลงานวิจัยและนวัตกรรมของไทย 

โดย นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สวรส. เดินทางเข้าร่วมพิธีเปิดงาน และเมื่อเวลา 14.30 น. ของวันที่ 24 กันยายน 2567 รศ.ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) กล่าวรายงานและวัตถุประสงค์การจัดงาน TRIUP Fair และบทบาท อว.ในการขับเคลื่อน พ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ.2564 
ต่อมาเมื่อเวา 14.45 น. นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้เดินทางมาถึงและขึ้นกล่าว ปาฐกถาพิเศษ การสร้างอนาคตไทยด้วยวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พร้อมทั้งกล่าวเปิดงาน TRIUP Fair 2024 อย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งได้เชิญผู้บริหารหน่วยงานที่ร่วมจัดงานขึ้นถ่ายภาพร่วมกับ

เวลา 15.00 น.  นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รมต.อว.ได้เป็นประธานมอบรางวัล TURIUP Awards for Research Utilization with High Impact ซึ่ง สวรส. ได้รับรางวัลระดับยอดเยี่ยม การประกาศเชิดชูเกียรติผลงานวิจัยที่มีผลกระทบสูง ประจำปี 2567 โดยผลงานที่ได้รับรางวัลได้แก่ "การให้บริการรักษาอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยของร้านยาในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ" ซึ่งเป็นหนึ่งในผลงานวิจัยและการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์ ซึ่ง ดดร.ภญ.นพคุณ ธรรมธัชอารี ผู้จัดการงานวิจัยอาวุโส ขึ้นร่วมรับรางวัลพร้อมกับ รศ.ภญ.สุณี เลิศสินอุดม หัวหน้าโครงการและทีมนักวิจัยโครงการ ซึ่งรางวัลดังกล่าวเป็นรางวัลที่ได้รับการคัดเลือกจากผลงานที่สร้างผลกระทบสูงทางด้านนโยบายสุขภาพ ด้วยการประเมินผลลัพธ์จากการให้บริการและจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อปรับปรุงบริการของการให้ร้านยาเป็นหน่วยบริการรักษาเจ็บป่วยเล็กน้อยสำหรับผู้ป่วยสิทธิหลักประกันสุขภาพ เพื่อช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาล เพิ่มการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ โดยมีประชาชนกว่า 9แสนคนได้รับบริการมากกว่า 1 ล้านครั้ง ซึ่งนำไปสู่การลดงบประมาณค่าใช้จ่ายภาครัฐได้ถึง 18-25 ล้านบาทต่อปี และยังเป้นการนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตและการดูแลสุขภาพของประชาชนคนไทยในระดับชุมชนที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย

ต่อมาเมื่อเวลานางสาวศุภมาส อิศรภักดี รมต.อว. ได้ร่วมเดินชมนวัตกรรมและนิทรรศการที่นำมาจัดแสดงภายในงาน TRIUO Fair พร้อมได้เยี่ยมชมบูธ นวัตกรรมหุ่นยนต์กึ่งอัตโนมัติจับเลื่อยตัดกระดูก (OrthoAssist)ในครั้งนี้

ซึ่งงาน TRIUP Fair ในครั้งนี้ได้รับความสนใจทั้งกลุ่มนักวิจัย นักธุรกิจ และประชาชนทั่วไปเข้ามาเดินชมและสอบถามข้อมูลเพื่อไปสู่การสร้างโอกาสในมิติต่างๆ ซึ่งจะนำไปสู่เส้นทางของการนำงานวิจัยไปสู่การใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้