ข่าว/ความเคลื่อนไหว
โรคมะเร็งท่อน้ำดียังคงเป็นโรคที่พบบ่อยในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทย ด้วยวัฒนธรรมและวิถีการบริโภคอาหาร เช่น การกินปลาดิบ เนื้อดิบ ฯลฯ ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับ ซึ่งเป็นการติดเชื้อที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งท่อน้ำดี โดยเฉพาะจังหวัดขอนแก่นเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีรายงานอุบัติการณ์ของโรคมะเร็งท่อน้ำดีสูงที่สุดของประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสูญเสีย
ต่อชีวิต ครอบครัว สังคม และระบบบริการสาธารณสุขของประเทศเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักตรวจพบโรค เมื่อโรคได้ดำเนินมาถึงระยะท้ายๆ ถึงจะแสดงอาการ จึงเป็นสาเหตุทำให้มีอัตราการเสียชีวิตสูง ทั้งนี้โรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี ป้องกันและรักษาได้ ถ้าสามารถคัดกรองกลุ่มเสี่ยงให้เข้าสู่กระบวนการรักษาได้เร็ว
จากปัญหาด้านสาธารณสุขที่สำคัญดังกล่าว สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) นำโดย นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข, ดร.จุไรรัตน์ พรหมใจ ผู้จัดการงานวิจัย สวรส. และสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) นำโดย นายสุทธิพงษ์ วสุโสภาพล รองเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ และ นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานคณะกรรมการสนับสนุนและติดตามการดำเนินการเพื่อหยุดปัญหาพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี สช. จึงลงพื้นที่ร่วมหารือเรื่องการพัฒนางานวิจัยและระบบสาธารณสุขเพื่อแก้ปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี กับทีมนักวิจัย ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ทรงคุณวุฒิในพื้นที่ อาทิ นายสุทธินันท์ บุญมี ประธานคณะกรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชน เขต 7, นพ.เรืองศิลป์ เถื่อนนาดี ประธานมูลนิธิมะเร็งท่อน้ำดี, รศ.ดร.วัชรินทร์ ลอยลม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยมะเร็งท่อน้ำดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น และเลขาธิการมูลนิธิมะเร็งท่อน้ำดี, ผศ.ดร.นพ.อรรถพล ติตะปัญ หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์มะเร็งท่อน้ำดี, ดร.เสาวลักษณ์ คชมาตย์ รองผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จ.ขอนแก่น, นายวีระศักดิ์ ชนะมาร ผู้อำนวยการกลุ่มจังหวัด สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 7 ขอนแก่น ฯลฯ เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ณ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมเยี่ยมชมการดำเนินงานของศูนย์ความเป็นเลิศมะเร็งท่อน้ำดีและให้กำลังใจผู้ป่วย
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผอ.สวรส. กล่าวช่วงหนึ่งว่า การพัฒนาระบบสาธารณสุขเพื่อแก้ปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี จะพยายามสร้างองค์ความรู้ที่สามารถปิดช่องว่างปัญหา คู่ขนานไปกับการขับเคลื่อนสังคมและสาธารณะ เพื่อให้เกิดผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน เช่น คนรุ่นใหม่ควรมีความรู้ที่ถูกต้องและมีการบริโภคอาหารดิบน้อยลง, มีการคัดกรองโรคได้ตั้งแต่ระยะแรกๆ ฯลฯ ซึ่งการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาในครั้งนี้แต่ละภาคีต้องร่วมกันทั้งองคาพยพ ไม่ว่าจะเป็น ทีมนักวิจัย/นักวิชาการในพื้นที่ สวรส. สช. สปสช. กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงชุมชนและประชาชนต้องเข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่แรก และเดินไปด้วยกัน สร้างกลไกสนับสนุน และพัฒนาโมเดลตัวอย่างในระดับเขตสุขภาพก่อน โดยงานวิจัยจะเข้ามาช่วยเติมเต็มความรู้ให้การขับเคลื่อนสังคมมีทิศทางที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ภายใต้การกำกับติดตามและถอดบทเรียนระหว่างทาง เพื่อให้เกิดการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ได้จริงเป็นระยะๆ ซึ่งการที่จะดำเนินการใดๆ ต้องชัดเจนในองค์ความรู้ที่ผ่านมา และสะท้อนข้อมูลที่เป็นสาเหตุของปัญหาที่แท้จริงให้ได้ก่อน เช่น ระยะเวลาในการเกิดโรค, การตรวจคัดกรองได้เร็วจะส่งผลดีอย่างไรบ้าง, การรายงานจำนวนผู้ป่วยควรมีการแสดงข้อมูลเรื่องที่อยู่และพฤติกรรมของผู้ป่วยให้ชัดเจน เพื่อการจัดการปัญหาด้านพื้นที่และสาเหตุของปัญหาที่แท้จริง ฯลฯ
ทั้งนี้ในการหารือได้มีการแลกเปลี่ยนมุมมองที่เป็นประโยชน์กับทีมวิจัยในพื้นที่ และเป็นนิมิตหมายอันดีของภาคีสำคัญๆ ที่จะร่วมกันจัดทัพ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีอย่างเป็นระบบ และส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีขึ้น เช่น สามารถลดการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับให้เหลือน้อยกว่าร้อยละ 1, อัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดี เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 60, ลดการตายจากโรคมะเร็งท่อน้ำดีให้เหลือน้อยกว่าร้อยละ 50 ฯลฯ
ในระยะเวลาอันใกล้นี้
ด้าน ดร.จุไรรัตน์ พรหมใจ ผู้จัดการงานวิจัย สวรส. กล่าวว่า หลังจากที่ประเด็นปัญหาพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีได้ถูกนำเข้าสู่การพิจารณาในการประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 7 เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2557 และสมัชชาสุขภาพแห่งชาติได้ออกประกาศรับรองวาระนี้เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2558 สช.ในฐานะแกนหลักในการขับเคลื่อนสาธารณะ จึงร่วมกับ สวรส. องค์กรด้านวิชาการ เพื่อขับเคลื่อนการแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าวในทุกมิติ ซึ่งเบื้องต้น สวรส. จะทำงานร่วมกับทีมนักวิจัยและนักวิชาการในพื้นที่ เพื่อสังเคราะห์องค์ความรู้ที่มีอยู่ รวมทั้งพัฒนาโจทย์วิจัยที่สามารถตอบสนองปัญหาและนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
1
20
1
20
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้