สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายระบบวิจัยทั่วประเทศ แถลงข่าวจัดงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2565 (Thailand Research Expo 2021)” ครั้งที่ 17 นำตัวอย่างผลงานวิจัยที่จะไปจัดแสดงในงานมหกรรมงานวิจัยฯ ภายใต้แนวคิด “วิจัยเพื่อพัฒนาประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” ซึ่งเป็นเวทีและโอกาสสำคัญในการรวมพลังเครือข่ายการวิจัยของไทยที่มีศักยภาพ และขยายผลงานวิจัยไปสู่กลุ่มผู้ใช้ประโยชน์ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ ตลอดจนเพื่อการกระจายโอกาสในการเข้าถึงฐานข้อมูลความรู้การวิจัยและนวัตกรรม ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2565 ที่ผ่านมา

          ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า การจัดงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติปีนี้เป็นปีที่ 17 มีวัตถุประสงค์เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ผู้ทรงเป็น “พระบิดาแห่งการวิจัยไทย” และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 และพระบรมวงศานุวงศ์ ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ ต่องานวิจัยไทย โดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาเปิดงานในวันที่ 1 ส.ค. 2565 นี้  ซึ่งงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติฯ เป็นเวทีระดับชาติ ที่นำเสนอความก้าวหน้าของผลงานวิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีศักยภาพพร้อมใช้ประโยชน์ และเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมให้เกิดการเผยแพร่และถ่ายทอดองค์ความรู้ รวมถึงเชื่อมโยงการ
บูรณาการความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการนำงานวิจัยไปใช้ในพัฒนาประเทศในมิติต่างๆ ทั้งเชิงวิชาการ นโยบาย สังคม ชุมชน พาณิชย์ และอุตสาหกรรม ภายใต้ความร่วมมือของหน่วยงานเครือข่ายในระบบวิจัยทั่วประเทศ และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และมีผลงานวิจัยร่วมนำเสนอจากเครือข่ายในระบบวิจัยทั่วประเทศกว่า 500 ผลงาน ใน 5 ประเด็นหลักคือ 1.งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจสร้างคุณค่าและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ 2.งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อยกระดับสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน 3.งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) 4.งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต และ 5.งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อใช้ประโยชน์เชิงการพัฒนา ทั้งนี้ผู้สนใจ สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ทั้งรูปแบบ Online และ Onsite ผ่านทางเว็บไซต์ www.researchexporegis.com โดยลงทะเบียนเข้าชมแบบ Onsite ภายในวันที่ 27 ก.ค. 2565 และแบบ Online ภายในวันที่ 5 ส.ค. 2565

          ด้าน นพ.นพพร ชื่นกลิ่น ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ร่วมเวทีแถลงข่าวในปีนี้ โดยย้ำว่าผลงานวิจัยของ สวรส. ทุกผลงานมีจุดเน้นที่สำคัญคือ ผลงานวิจัยต้องสามารถนำไปพัฒนาต่อยอด หรือนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลายมิติ โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์ในมิติเชิงนโยบาย เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในระบบสุขภาพ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยในปีนี้ สวรส. จัดแสดงนวัตกรรมงานวิจัยในภาคนิทรรศการโซนหน่วยบริหารจัดการทุนวิจัยและนวัตกรรม (Program Management Unit : PMU) จำนวน 7 ผลงาน ได้แก่ 1) แผ่นปิดกะโหลกศีรษะ ลดเสี่ยงติดเชื้อ ออกแบบเฉพาะบุคคล และเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วย 2) ชุดตรวจ albuminuria คัดกรองโรคไตเรื้อรัง ราคาถูก สะดวก และมีประสิทธิภาพ 3) เซนเซอร์ตรวจหายาปลอมและคุมคุณภาพกัญชา 4) วัสดุนำส่งยาปฏิชีวนะ ไฮดรอกซีแอปาไทต์ ตัวเชื่อมฆ่าเชื้อกระดูกอักเสบ มีประสิทธิภาพ ไม่ต้องผ่าตัดซ้ำ และผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดี 5) งานวิจัยสาร CBD ในกัญชา ช่วยคนนอนไม่หลับเรื้อรัง 6) การลงทะเบียนและคัดกรองเพื่อผ่าตัดประสาทหูเทียม ช่วยคนไทยได้ยินเสียงอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม 7) วิจัยสู่ชุดสิทธิประโยชน์ ตรวจยีนมะเร็งเต้านม บริการการแพทย์แม่นยำ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้ป่วย

          ทั้งนี้ในการแถลงข่าวการจัดงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติในปีนี้ สวรส.ได้นำผลงานวิจัย “แผ่นปิดกะโหลกศีรษะ” ที่ออกแบบเฉพาะบุคคล ช่วยลดเสี่ยงติดเชื้อระหว่างการผ่าตัด และเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้ป่วย มาจัดแสดง โดยงานวิจัยดังกล่าว ได้ประเมินความปลอดภัยและสมรรถนะของแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคล โดยเน้นการทดสอบตามหลักมาตรฐานและข้อกำหนดสากลขององค์กรที่ควบคุมการขึ้นทะเบียนเครื่องมือแพทย์ และมีการประเมินคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ ตลอดจนผลกระทบด้านงบประมาณและด้านสังคม เพื่อพัฒนานวัตกรรมงานวิจัยให้มีคุณภาพและความปลอดภัยแก่ผู้ป่วยมากที่สุด โดยมีการศึกษาทางคลินิกย้อนหลังในผู้ป่วยที่ได้มีการผ่าตัดใช้งานแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคล และแผ่นปิดกะโหลกเทียม PMMA ซึ่งปัจจุบันแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคล รุ่น CraniMesh ใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ ได้มีการทดลองใช้ในผู้ป่วยแล้ว และเกิดผลดีต่อการรักษาผู้ป่วยเป็นอย่างมาก เช่น ลดโอกาสการติดเชื้อขณะผ่าตัด ลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการผ่าตัด รวมถึงยังช่วยให้ผู้ป่วยมีกะโหลกศีรษะหลังผ่าตัดที่สวยงาม ไม่บิดเบี้ยว เนื่องจากมีการออกแบบเฉพาะบุคคลโดยการประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ ทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้บริหารหน่วยงานวิจัย นักวิจัย และสื่อมวลชนที่มาร่วมงาน เข้ามาซักถามข้อมูลกับนักวิจัยฯ ตลอดช่วงเวลาการแถลงข่าว

          สำหรับงานมหกรรมวิจัยแห่งชาติปี 2565 นี้ มีการจัดแสดงนวัตกรรมงานวิจัยหลากหลายสาขา ทั้งการวิจัยด้านการแพทย์และสาธารณสุข การวิจัยด้านสังคม คุณภาพชีวิตและความมั่นคง การวิจัยด้านการศึกษา การวิจัยด้านศิลปวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ การวิจัยด้านการเกษตร พลังงานและสิ่งแวดล้อม การวิจัยด้านการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดต่างๆ ฯลฯ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 - 5 ส.ค. 2565 ณ ห้องบางกอกคอนเวนชัน ชั้น 22  โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์