4th Floor, National Health Building 88/39 Tiwanon 14 Road Taradkwan, Muang District Nonthaburi 11000
Font Size
-
+
color contrast
C
C
C
Search
เมนู

วิจัยชี้ 3 ทางเลือก แก้ปัญหาคลินิกชุมชนอบอุ่น มุ่งลดผลกระทบ พร้อมให้ประชาชนเข้าถึงระบบสุขภาพปฐมภูมิ กทม.

          จากการยกเลิกสัญญาคลินิกชุมชนอบอุ่นที่ให้บริการด้านสุขภาพในระดับปฐมภูมิในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ส่งผลต่อความเดือนร้อนของประชาชน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการแก้ปัญหาต่างๆ มาเป็นลำดับ โดยส่วนหนึ่งเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้นเพื่อลดผลกระทบของประชาชนในเบื้องต้น ทั้งนี้ สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยเพื่อการพัฒนาระบบสุขภาพ เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนของปัญหาเชิงระบบเพื่อให้เกิดความยั่งยืน จึงเร่งทำการศึกษาวิจัยเพื่อจัดทำทางเลือกของการบริหารจัดการคลินิกชุมชนอบอุ่นในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในพื้นที่ กทม. โดยข้อมูลจากงานวิจัยดังกล่าวพบว่า สถานการณ์การใช้บริการและจำนวนหน่วยบริการจากอดีตถึงปัจจุบันในพื้นที่ กทม. ชี้ชัดว่า การดำเนินการของหน่วยบริการสุขภาพภาครัฐไม่เพียงพอต่อการเข้าถึงบริการสุขภาพปฐมภูมิที่มีคุณภาพและให้เป็นที่พึงพอใจของประชาชนผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในพื้นที่ กทม.จึงริเริ่มรูปแบบของคลิกนิกชุมชนอบอุ่นที่ดำเนินการโดยภาคเอกชน แม้ว่าผลการดำเนินงานที่ผ่านมาในด้านคุณภาพและความพึงพอใจจะไม่ได้สูงกว่าหน่วยบริการภาครัฐก็ตาม แต่การมีคลินิกชุมชนอบอุ่นยังมีความจำเป็นและเป็นปัจจัยสำคัญด้านการเข้าถึงบริการของประชาชนในพื้นที่ กทม.

          ทั้งนี้การวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอทางเลือกเชิงนโยบายที่เกี่ยวกับคลินิกชุมชนอบอุ่น ดำเนินการโดย รศ.นพ.จิรุตม์ ศรีรัตนบัลล์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เครือข่ายนักวิจัย สวรส. เน้นศึกษาสาระสำคัญ 4 กลุ่มประเด็น 1) ทางเลือกของการบริหารจัดการคลินิกชุมชนอบอุ่นในพื้นที่ กทม. 2) สิ่งที่ต้องพัฒนา ในแต่ละทางเลือกสำหรับระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิในพื้นที่ กทม. 3) หลักเกณฑ์พิจารณาทางเลือกและเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการที่สำคัญและจำเป็นของแต่ละทางเลือก 4) การเปรียบเทียบทางเลือกตามหลักเกณฑ์การพิจารณาที่กำหนดไว้ และเงื่อนไขสำคัญประกอบการดำเนินการเพื่อให้ทางเลือกดังกล่าวประสบความสำเร็จ

          โดยข้อเสนอจากงานวิจัย ระบุ 3 ทางเลือกการบริหารจัดการคลินิกชุมชนอบอุ่นในพื้นที่ กทม. ได้แก่
          ทางเลือกที่ 1 ยกเลิกสัญญากับหน่วยบริการปฐมภูมิที่เป็นภาคเอกชนทั้งหมดที่ทำหน้าที่เป็นหน่วยบริการประจำ และหน่วยบริการปฐมภูมิ ทั้งคลินิกชุมชนอบอุ่นที่เป็นคลินิกเดี่ยว คลินิกที่ดำเนินการเป็นเครือข่าย และคลินิกของโรงพยาบาลเอกชน คงไว้เฉพาะหน่วยบริการประจำที่เป็นโรงพยาบาลเอกชนในสัดส่วนเดิม โดยภาคเอกชนอาจเข้าร่วมในเครือข่ายบริการในฐานะหน่วยบริการที่รับส่งต่อหรือหน่วยบริการที่ร่วมให้บริการเฉพาะด้าน เช่น ร้านยา หรือคลินิกกายภาพบำบัด
          ทางเลือกที่ 2 ให้คลินิกชุมชนอบอุ่นที่มีความพร้อมและมีคุณสมบัติตามที่กำหนดสามารถเป็นหน่วยบริการประจำที่บริหารเครือข่ายบริการสุขภาพปฐมภูมิเต็มรูปแบบเทียบเท่าศูนย์บริการสาธารณสุขของ กทม. ในขณะที่คลินิกชุมชนอบอุ่นที่มีคุณสมบัติไม่ครบถ้วน อาจเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้โดยเป็นหน่วยบริการในเครือข่ายของหน่วยบริการประจำ
          ทางเลือกที่ 3 ให้มีคลินิกชุมชนอบอุ่น เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายบริการสุขภาพปฐมภูมิภายใต้นโยบายที่ให้ประชาชนไปใช้บริการที่ไหนก็ได้ ซึ่งคลินิกชุมชนอบอุ่นสามารถขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิเท่านั้น โดยให้ศูนย์บริการสาธารณสุขของ กทม. โรงพยาบาลของรัฐ และโรงพยาบาลเอกชนในพื้นที่ กทม.ที่ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการประจำอยู่แล้ว ทำหน้าที่เป็นหน่วยบริการประจำของระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติต่อไป

          ด้าน ผศ.ดร.จรวยพร ศรีศศลักษณ์ ผู้จัดการงานวิจัยอาวุโส สวรส. ย้ำถึงการวิจัยครั้งนี้ว่า เป็นการวิจัยเชิงสังเคราะห์ที่ได้เร่งศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้านก่อนที่จะจัดทำเป็นข้อเสนอทางเลือกให้กับผู้กำหนดนโยบาย เนื่องจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบโดยตรงกับประชาชนผู้รับบริการในเขต กทม. ซึ่งข้อเสนอทางเลือกจากงานวิจัยดังกล่าว ได้ถูกนำเสนอต่อผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยทิศทางของการระดมความคิดเห็น มีแนวโน้มของการเลือกข้อเสนอการบริหารจัดการคลินิกชุมชนอบอุ่น ตามทางเลือกที่ 2 และ 3 ทั้งนี้จุดแข็งของทางเลือกที่ 2 คือประชาชนสามารถเลือกคลินิกได้หลากหลาย และอาจมีการวางเป้าหมายในอนาคตว่า คลินิกชุมชนอบอุ่นที่บริหารโดยเอกชน สามารถพัฒนาไปสู่หน่วยบริการประจำได้ แต่ต้องมีความชัดเจนว่าต้องดำเนินการอย่างไร เพื่อสร้างความเป็นเจ้าของในการให้บริการในระยะยาว ส่วนทางเลือกที่ 3 มีจุดแข็งสำคัญคือ การเข้าถึงบริการสุขภาพปฐมภูมิได้อย่างกว้างขวางและรวดเร็ว โดยมีหน่วยบริการภาครัฐเป็นหน่วยบริการประจำ ทำให้มีหลักประกันความต่อเนื่อง ซึ่งทางเลือกที่ 3 อาจใช้ร่วมกับทางเลือกที่ 2 ได้  นอกจากนี้สิ่งที่จำเป็นต้องพัฒนาควบคู่ไปด้วย ไม่ว่าจะใช้ทางเลือกใดในการดำเนินการสำหรับระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิในพื้นที่ กทม. คือ การใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือในการสร้างศักยภาพหลักในการจัดและบริหารระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ โดยพัฒนาโปรแกรมเวชระเบียนกลางเพื่อใช้ร่วมกัน  การพัฒนาระบบสมุดสุขภาพประชาชนเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลสุขภาพของตนเองได้  การวางระบบทบทวนการใช้ทรัพยากรและการใช้บริการของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กรุงเทพมหานคร โดยใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการติดตาม ร่วมกับกระบวนการตรวจสอบการเบิกจ่ายอย่างเป็นระบบ เป็นต้น

          ทั้งนี้ข้อเสนอจากงานวิจัยดังกล่าวบางส่วนได้ถูกนำเสนอต่อคณะอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพระดับเขตพื้นที่ (อปสข.) ซึ่งได้รับการแก้ปัญหาไปแล้วระดับหนึ่งตามข้อเสนอ แต่อย่างไรก็ตาม นโยบายดังกล่าวควรมีการประเมินผลและติดตามอย่างต่อเนื่อง และเพื่อให้เกิดการนำไปใช้ประโยชน์เชิงนโยบาย โดย สวรส. วางแผนจะเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเพื่อพิจารณาต่อไป

รูปภาพเพิ่มเติม
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
(Strictly Necessary Cookies) เปิดใช้งานตลอด

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้