4th Floor, National Health Building 88/39 Tiwanon 14 Road Taradkwan, Muang District Nonthaburi 11000
Font Size
-
+
color contrast
C
C
C
Search
เมนู

สวรส.โชว์นวัตกรรมวิจัยพร้อมใช้ “แผ่นปิดแผลเรื้อรัง ไฟโบรอินจากรังไหม” และ “เครื่องมือตรวจ-ติดตามผู้ป่วยพาร์กินสัน” เชื่อมสู่ผู้ประกอบการ สตาร์ทอัพ หวังเพิ่มมูลค่าเชิงพาณิชย์

          สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) นำเสนอนวัตกรรมผลงานวิจัยพร้อมใช้ 2 ผลงาน ในเวที Thailand Tech Show 2019 ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรม 360 องศาเพื่อความยั่งยืน” ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 - 6 กันยายน 2562 ในรูปแบบของตลาดเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เปิดโอกาสให้นักวิจัยได้นำเสนอผลงานกับนักลงทุน นักธุรกิจ ผู้ประกอบการ สตาร์ทอัพ และผู้ที่สนใจ รวมถึงกระตุ้นให้เกิดการใช้ประโยชน์จากผลงานวิจัยในภาคเอกชน ไม่ว่าจะเป็น การส่งเสริมให้เกิดการวิจัยและพัฒนาต่อยอดในภาคเอกชน การผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนผลงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ ตลอดจนการพัฒนาผลงานวิจัยให้ตอบโจทย์อุตสาหกรรมมากขึ้น จัดโดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ

          โดยในงานดังกล่าว สวรส.ได้นำเสนอนวัตกรรมงานวิจัยในโซน Tech Show 2 ผลงาน ได้แก่ “เครื่องคัดแยกโรคการเคลื่อนไหวผิดปกติจากสัญญาณการสั่น” ผลงานวิจัยจากทีมคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์โรคพาร์กินสันและกลุ่มโรคความเคลื่อนไหวผิดปกติ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ซึ่งเป็นเครื่องวัดการสั่นสำหรับการวินิจฉัยโรคพาร์กินสัน มีลักษณะคล้ายนาฬิกาข้อมือ สามารถบันทึก วิเคราะห์ และแสดงผลจากการสั่นที่สามารถช่วยในการวินิจฉัยโรคพาร์กินสันแยกจากโรคอื่นที่มีลักษณะการสั่นใกล้เคียงกัน ซึ่งเครื่องวัดการสั่นดังกล่าว แพทย์ทั่วไปที่ไม่ใช่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาทสามารถใช้ตรวจวัดอาการสั่นเพื่อการวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำ ส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้อง และสามารถติดกับตัวผู้ป่วยตลอดเวลา ทำให้สามารถวัดการเคลื่อนไหวได้ทุกช่วง และติดตามประเมินผลการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

          นอกจากนั้น สวรส.ได้นำเสนอ “วัสดุปิดแผลเบาหวานไฟโบรอินที่ผสมสารสกัดจากวุ้นว่านหางจระเข้” ผลงานวิจัยจากทีมคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งเป็นวัสดุทางการแพทย์ในรูปวัสดุปิดแผลที่ประกอบด้วยไฟโบรอินจากรังไหมและสารสกัดจากวุ้นว่านหางจระเข้ สามารถรักษาแผลเรื้อรังในผู้ป่วยเบาหวานให้หายเร็วขึ้นและลดการอักเสบ สะดวกต่อการใช้งาน นอกจากนั้นกระบวนการผลิตสารสกัดและวัสดุปิดแผล ไม่มีการใช้ตัวทำละลายอินทรีย์ที่ใช้พลังงานสูง จึงไม่สร้างมลภาวะ ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติที่มีแหล่งการผลิตภายในประเทศและมีราคาถูก ต้นทุนผลิตภัณฑ์ลดลง ส่งผลให้เกิดความเป็นไปได้ในการลงทุนของภาคอุตสาหกรรมเพื่อการผลิตภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น

          นอกจากนี้ผลงานวิจัย “วัสดุปิดแผลเบาหวานไฟโบรอินที่ผสมสารสกัดจากวุ้นว่านหางจระเข้” ยังได้นำเสนอในรูปแบบ Investment Pitching โดยทีมเครือข่ายวิจัยของ สวรส. ผศ.นพ.ศรัณย์ วรศักดิ์วุฒิพงษ์ และนายปรียวัสส์ พิมพ์นวล มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งเป็นการเปิดเวทีให้กับงานวิจัยที่มีความโดดเด่น พร้อมใช้งานได้จริง ได้นำเสนอให้กับผู้ประกอบการหรือนักลงทุนที่สนใจ ผลงานละ 20 นาที ซึ่ง ผศ.นพ.ศรัณย์ ได้ย้ำถึงจุดเด่นของผลงานวิจัยว่า วัสดุปิดแผลเบาหวานไฟโบรอินฯ ได้ทำการทดลองในกลุ่มผู้ป่วยที่มีแผลเบาหวานเรื้อรัง และมีขนาดแผลที่แตกต่างกันไป ซึ่งผลการทดลองเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่า ระหว่างใช้วัสดุปิดแผล ขนาดของแผลจะค่อยๆ ลดลงและมีเนื้อใหม่เพิ่มขึ้น จนกระทั่งแผลหายสนิทในเวลาที่รวดเร็วขึ้น โดยไม่ต้องทำแผลบ่อยๆ การทำแผล 1 ครั้ง สามารถอยู่ได้ 3-7 วัน ซึ่ง Gel film ที่พัฒนาขึ้น มีความแข็งแรง ยืดหยุ่น สามารถโค้งงอทาบไปกับแผลได้ และดูดซับน้ำได้ถึงประมาณ 44% ซึ่งภายหลังจากการดูดซับน้ำ Gel film จะยืดหยุ่นและคงรูปแนบติดไปกับแผลที่มีความลึกได้ดี สามารถลดอัตราการติดเชื้อได้เนื่องจากวุ้นว่านหางจระเข้มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย

          ซึ่งในงานดังกล่าวนับเป็นรูปแบบของการขับเคลื่อนงานวิจัยที่เชื่อมโยงให้ภาคเอกชนสามารถเข้าถึงข้อมูลที่อนุญาตให้ใช้สิทธิผลงานวิจัยและถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่ภาคเอกชน เพื่อให้เกิดการนำไปใช้ในการผลิต จำหน่าย หรือการประกอบธุรกิจแบบไม่สงวนสิทธิ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาประเทศทั้งในเชิงการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยและการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมโดยมีฐานองค์ความรู้จากงานวิจัยของไทย

รูปภาพเพิ่มเติม
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
(Strictly Necessary Cookies) เปิดใช้งานตลอด

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้