4th Floor, National Health Building 88/39 Tiwanon 14 Road Taradkwan, Muang District Nonthaburi 11000
Font Size
-
+
color contrast
C
C
C
Search
เมนู

สวรส. - ม.วลัยลักษณ์ ผนึกกำลังตั้ง “ศูนย์วิจัยด้านระบบสุขภาพและการแพทย์” ร่วมสร้างกลไกหนุน “การพัฒนาระบบสุขภาพ” ของประเทศ

          สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.)  ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์  สนับสนุนการจัดตั้งและดำเนินงานของ “ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการวิจัยระบบสุขภาพและการแพทย์ (Center of Excellence in Health System and Medical Research [CE-HSMR])” (ในพื้นที่เขต 11) มุ่งตอบสนองการพัฒนาระบบสุขภาพของประเทศ  โดยมีสถาบันการศึกษาเป็นศูนย์กลางเติมเต็มช่องว่างความรู้ด้านสุขภาพและการแพทย์  พัฒนาโจทย์วิจัยเชื่อมต่อจากระดับพื้นที่สู่ระดับประเทศ  พร้อมพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายจากความรู้งานวิจัยควบคู่กับการพัฒนานักวิจัยหน้าใหม่  โดยได้มีการลงนามความร่วมมือระหว่าง สวรส. โดย นพ.พีรพล  สุทธิวิเศษศักดิ์ ผอ.สวรส. ร่วมกับ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ โดย ศ.ดร.สมบัติ  ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์  ในการสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์ความเป็นเลิศด้านการวิจัยระบบสุขภาพและการแพทย์ เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2560 ณ หน่วยประสานงานมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ อาคาร SM Tower ถ.พหลโยธิน กรุงเทพฯ

          ศ.ดร.สมบัติ  ธำรงธัญวงศ์  อธิการบดี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์  กล่าวว่า  มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์  มีนโยบายชัดเจนในการส่งเสริมการวิจัยในรูปแบบของการพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้  และสร้างเครือข่ายนักวิชาการ  ผ่านการจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศในด้านต่างๆ  สำหรับการวิจัยด้านระบบสุขภาพนั้น  มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ได้จัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้านการวิจัยระบบสุขภาพและการแพทย์ (CE-HSMR) ขึ้น  เพื่อเป็นการเชื่อมโยงงานวิชาการ นวัตกรรมสร้างสรรค์ในสถาบันอุดมศึกษากับการแก้ปัญหาและพัฒนาประเทศ  ศูนย์ความเป็นเลิศต่างจากหน่วยวิจัยทั่วไปคือ  มุ่งเน้นการนำความรู้จากงานวิจัยไปประยุกต์ใช้ได้จริง  และต้องสามารถตอบสนองต่อความต้องการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในเรื่องนั้นๆ  ตลอดจนมุ่งเน้นทำวิจัยในลักษณะการสะสมและต่อยอดองค์ความรู้  สามารถเกาะติดประเด็นวิจัยที่สำคัญ  ทันต่อสถานการณ์  เพื่อการตอบโจทย์และแก้ปัญหาด้านสุขภาพและการแพทย์ของประเทศ  โดยมหาวิทยาลัยยินดีให้การสนับสนุนการดำเนินงานของ CE-HSMR อย่างเต็มที่  ไม่ว่าจะเป็น  การสนับสนุนเชิงนโยบาย  การสนับสนุนบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ  การบริหารจัดการและงบประมาณ ฯลฯ  เพื่อให้การดำเนินงานของ CE-HSMR สามารถสร้างงานวิจัย  สร้างเครือข่ายนักวิจัยที่มีศักยภาพสูง นำไปสู่การเสนอองค์ความรู้เพื่อการจัดการเชิงระบบ หรือต้นแบบการพัฒนาระบบสุขภาพที่มีประสิทธิภาพให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้  โดยเน้นความต้องการของผู้ใช้เป็นสำคัญ

          ด้าน นพ.พีรพล  สุทธิวิเศษศักดิ์  ผู้อำนวยการ สวรส.  กล่าวว่า  สถาบันการศึกษาตามภูมิภาคต่างๆ นับเป็นศูนย์กลางและแหล่งทรัพยากรที่มีทั้งองค์ความรู้และบุคลากรที่มีความสามารถจำนวนมาก  โดยเฉพาะด้านการวิจัยสาขาต่างๆ  ซึ่ง สวรส. ได้มีการทำงานเชื่อมกับภาคีวิจัยที่เป็นสถาบันการศึกษามาโดยตลอด  หากแต่ยังไม่เกิดกลไกที่ชัดเจนและยั่งยืนในการสนับสนุนมากนัก  ดังนั้นเมื่อมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์มีนโยบายการสนับสนุนงานด้านการวิจัยที่ชัดเจนและสอดคล้องกับนโยบายของ สวรส. และยังเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาระบบวิจัยของประเทศอีกด้วย  ความร่วมมือของ สวรส. และมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ในครั้งนี้  จึงนับเป็นความร่วมมือที่มีแนวโน้มของความสำเร็จค่อนข้างสูง  โดย สวรส. ได้มีแผนดำเนินงานในการร่วมสนับสนุนศูนย์ความเป็นเลิศด้านการวิจัยระบบสุขภาพและการแพทย์ ของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์อย่างต่อเนื่อง  ไม่ว่าจะเป็น  การสนับสนุนงบประมาณ  การสนับสนุนด้านการพัฒนาศักยภาพ  การบริหารจัดการงานวิจัย  การพัฒนาระบบวิจัย  และการสร้างเครือข่ายวิจัยที่สามารถเชื่อมโยงการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  เพื่อมุ่งเป้าให้เกิดผลลัพธ์และผลกระทบในเชิงสุขภาพและระบบสุขภาพของประชาชน   

          ทั้งนี้ ประเภทงานวิจัยที่สำคัญต่อการพัฒนาสุขภาพและระบบสุขภาพ ได้แก่ การวิจัยด้านกำลังคนและรูปแบบการจัดบริการสุขภาพ  การวิจัยด้านการคลังระบบสุขภาพ  ระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ  ระบบยาและอุปกรณ์การแพทย์  ตลอดจนธรรมาภิบาลและการบริหารระบบสุขภาพ  นอกจากนั้นยังรวมถึงการวิจัยด้านระบาดวิทยาและปัจจัยทางสังคมที่กำหนดสุขภาพด้วย  ซึ่งในการทำวิจัยอาจเป็นการวิจัยมุ่งเป้าเพื่อสร้างความรู้ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของผลลัพธ์สุขภาพหรือการปรับปรุงระบบสุขภาพก็ได้  ซึ่งอาจเรียกว่าเป็นการวิจัยเชิงนโยบายและระบบสุขภาพ (Policy and Health Systems Research)  หรืออาจเป็นการวิจัยเพื่อสร้างความรู้ช่วยการนำนโยบายสู่การปฏิบัติ (Implementation Research)

          “งานวิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพของประเทศ เป็นงานที่ต้องมีการทำงานเชื่อมโยงระหว่างสหวิชาชีพ  และร่วมมือกันระหว่างสถาบันและทุกภาคส่วน  ดังนั้นศูนย์ความเป็นเลิศด้านการวิจัยระบบสุขภาพและการแพทย์  จึงนับเป็นกลไกหนึ่งที่จะทำให้เกิดการสร้างและพัฒนาความรู้ที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ  ตลอดจนพัฒนาข้อเสนอที่ตอบโจทย์ความต้องการและทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม” นพ.พีรพล กล่าว    

          อนึ่ง การลงนามความร่วมมือทางวิชาการในครั้งนี้มีผลบังคับใช้เป็นเวลา 3 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2560 เป็นต้นไป  โดยความร่วมมือดังกล่าว นอกจากจะเป็นกลไกสนับสนุนการพัฒนาระบบสุขภาพของประเทศแล้ว  ยังส่งเสริมให้เกิดโอกาสในการพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรของทั้งสองสถาบัน ผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการวิจัย  การบริหารจัดการงานวิจัย  และด้านอื่นๆ ได้อีกด้วย

รูปภาพเพิ่มเติม
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
(Strictly Necessary Cookies) เปิดใช้งานตลอด

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้