4th Floor, National Health Building 88/39 Tiwanon 14 Road Taradkwan, Muang District Nonthaburi 11000
Font Size
-
+
color contrast
C
C
C
Search
เมนู

สวรส.เปิดเวทีระดมความเห็น ขยายแนวร่วม วิจัยพัฒนาระบบการเก็บข้อมูลโรคหลอดเลือดหัวใจ เร่งสร้างฐานข้อมูลประเทศ พัฒนาบริการสู่คุณภาพชีวิตคนไทย

          เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2560  สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.)  จัดประชุม“หลักประกันสุขภาพกับการให้บริการ PCI” ขึ้น ณ โรงแรมมารวยการ์เดน  มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดเวทีระดมความคิดเห็นและประสานความร่วมมือกับผู้เกี่ยวข้องในการพัฒนาระบบบริการ “การถ่างขยายหลอดเลือดหัวใจผ่านทางผิวหนัง” (PCI : Percutaneous Coronary Intervention)  โดยการจัดทำข้อมูลทะเบียนผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยการถ่างขยายหลอดเลือดหัวใจผ่านทางผิวหนัง (PCI Registry)  ซึ่งความร่วมมือในการทำระบบการเก็บข้อมูลในครั้งนี้จะนำไปสู่การสร้างระบบการบันทึกข้อมูลกลางที่มีมาตรฐาน  และการมีข้อมูลที่เป็นภาพรวมของประเทศ  โดยเน้นการนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์เพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการ และเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย  โดยในเวทีดังกล่าวได้มีการเสวนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหลายประเด็น  อาทิ  สภาวิชาชีพกับการพัฒนาระบบบริการ PCI  หลักประกันสุขภาพกับความเป็นธรรมในการเข้าถึงบริการ PCI  การสร้างความรู้เพื่อพัฒนาระบบบริการ PCI  ทั้งนี้มีผู้เข้าร่วมประชุมจากหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง  อาทิ  กองทุนหลักประกันสุขภาพ  แพทยสภา  สมาคมแพทย์มัณฑนากรหัวใจและหลอดเลือดแห่งประเทศไทย  ตลอดจนกลุ่มผู้ให้บริการจากสถานพยาบาลและสถาบันต่างๆ ฯลฯ  

          พ.อ.รศ.ดร.นพ.นครินทร์  ศันสนยุทธ  อายุรแพทย์หัวใจ แผนกโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า  เครือข่ายนักวิจัย สวรส.  ให้ข้อมูลว่า  การจัดทำ Thai PCI Registry  ถือเป็นการวางรากฐานเครือข่ายการขยายหลอดเลือดหัวใจผ่านทางผิวหนังของประเทศไทย  และส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างห้องสวนหัวใจทั่วประเทศ  ซึ่งการจัดทำระบบลงทะเบียนบันทึกข้อมูลจะทำให้เห็นข้อมูลเวชปฏิบัติ การทำการขยายหลอดเลือดหัวใจผ่านทางผิวหนังของประเทศไทย  ซึ่งรวมถึง ประเภทของผู้ป่วย  ข้อบ่งชี้ในการทำ  อุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้  ยาที่ต้องใช้  ผลการรักษา  อัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อน  ตลอดจนข้อมูลการกลับมารักษาซ้ำ  ซึ่งที่ผ่านมาข้อมูลดังกล่าวมีเพียงตัวเลขประมาณการเท่านั้น  ยังไม่มีข้อมูลที่เป็นภาพรวมของประเทศที่สามารถนำไปวิเคราะห์และวางแผนการพัฒนาคุณภาพการให้บริการหรือการป้องกันโรค  และการวางแผนเชิงนโยบาย  ดังนั้นการทำวิจัยครั้งนี้จึงต้องการความร่วมมือจากสถานพยาบาลและสถาบันต่างๆ ในการร่วมลงทะเบียนบันทึกข้อมูลในระบบ Thai PCI Registry  เพื่อการร่วมกันทำเรื่องที่เป็นประโยชน์ทั้งต่อผู้ป่วยและประเทศชาติ  โดยการเก็บข้อมูลจะมีการติดตามอย่างต่อเนื่อง  พร้อมการรายงานข้อมูลกลับเป็นระยะเพื่อการนำไปปรับปรุงและเพิ่มคุณภาพการให้บริการของแต่ละสถาบัน  ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำไปสู่กระบวนการป้องกันต่างๆ  การบริหารทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ  รวมถึงการนำข้อมูลไปพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย  และการวางแผนเชิงนโยบายในระดับประเทศ  ซึ่งหาก Thai PCI Registry สามารถเกิดขึ้นได้อย่างเป็นระบบ  การดำเนินงานในลักษณะของเครือข่ายแบบนี้ก็จะสามารถทำในกลุ่มโรคอื่นๆ ได้ด้วย

          ศ.นพ.ประสิทธิ์  วัฒนาภา  นายกแพทยสภา  กล่าวว่า  การพัฒนาระบบบริการ PCI  นับเป็นจิ๊กซอว์หนึ่งในหลายจิ๊กซอว์ของการพัฒนาคุณภาพการให้บริการในระบบสุขภาพ  เพื่อให้คนไทยได้รับการดูแลและการบริการที่มีมาตรฐาน  ซึ่งแพทยสภาให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง  ที่ผ่านมาประเทศไทยมีระบบการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ  ไม่ว่าจะเป็นระบบการให้บริการ  การจัดสรรค่าใช้จ่าย  หากแต่ยังเป็นแบบต่างคนต่างเก็บข้อมูล  ขาดการเชื่อมโยงข้อมูล  และยังไม่มีการนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อให้เกิดการปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพของการให้บริการอย่างเป็นระบบ  ดังนั้นทุกฝ่ายควรกลับมาทบทวนระบบและกระบวนการที่เกี่ยวข้อง  เพื่อให้ทุกระบบมุ่งสู่มาตรฐานมากขึ้น  ไม่ว่าจะเป็น  คุณภาพการรักษาและการให้บริการ  ระบบการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล  การนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์  การสะท้อนข้อมูลกลับเพื่อการพัฒนาการให้บริการ  การจัดสรรเงินสนับสนุนการให้บริการ  การจัดสรรค่าตอบแทน ฯลฯ  ซึ่งควรมีการศึกษาวิจัยเข้าไปพัฒนาระบบต่างๆ  เพื่อยกระดับมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยในทุกมิติ  นอกจากนี้หากมีระบบการบันทึกและวิเคราะห์ข้อมูลที่สามารถสะท้อนศักยภาพการบริการทางการแพทย์ที่เป็นภาพรวมของประเทศได้  จะสามารถสนับสนุนการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ (Medical Hub)  เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน  เพื่อยกระดับทางเศรษฐกิจ  และสร้างความเชื่อมั่นในการให้บริการทางการแพทย์กับนานาประเทศได้อีกด้วย  ซึ่งแพทยสภาพร้อมให้การสนับสนุนการวิจัยครั้งนี้อย่างเต็มที่  

          ด้าน นพ.พีรพล  สุทธิวิเศษศักดิ์  ผู้อำนวยการ สวรส. กล่าวว่า  จากปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง  โดยเฉพาะโรคหลอดเลือดหัวใจ  ซึ่งเป็นปัญหาต้นน้ำที่ควรมีการบันทึกข้อมูลการรักษาและสังเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบ  เพื่อนำข้อมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับการพัฒนาคุณภาพการให้บริการ  โดย สวรส.ได้ทำงานร่วมกับทีมนักวิจัยและสมาคมแพทย์มัณฑนากรหัวใจและหลอดเลือดแห่งประเทศไทย  ในการพัฒนาโครงการวิจัยเพื่อการสร้างระบบการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจ  ซึ่งคาดหวังว่าระบบดังกล่าวจะสามารถพัฒนาไปสู่การวิเคราะห์ข้อมูลที่ทำให้รู้ว่า  การให้บริการที่ดำเนินการอยู่  เกิดผลอย่างไรกับผู้ป่วย  และการสรุปข้อมูลให้กับสถานพยาบาล และสถาบันต่างๆ  เพื่อการพัฒนาคุณภาพการให้บริการ  และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อให้เกิดระบบการทำงานแบบเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพ  และการดำเนินการร่วมกันครั้งนี้จะเน้นไปที่การสร้างความเข้าใจ และความร่วมมือ เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเห็นความสำคัญ  และร่วมกันเสริมความเข้มแข็งให้กับระบบดูแลผู้ป่วย

รูปภาพเพิ่มเติม
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
(Strictly Necessary Cookies) เปิดใช้งานตลอด

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้