4th Floor, National Health Building 88/39 Tiwanon 14 Road Taradkwan, Muang District Nonthaburi 11000
Font Size
-
+
color contrast
C
C
C
Search
เมนู

วิจัยทบทวนหลังถ่ายโอนภารกิจ “สุขภาพ” ชี้ท้องถิ่นเด่นงาน “สร้างเสริมสุขภาพ” พร้อมเผยการถ่ายโอนสู่ อบต. มีโอกาสสำเร็จ

          เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2559 รร.มารวยการ์เด้น สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเสริมสร้างความร่วมมือในการจัดการปัญหาสาธารณสุขระดับพื้นที่ เปิดเวทีอภิปราย “การกระจายอำนาจ : ท้องถิ่นตัดสินใจแก้ไขปัญหาชุมชน” งานวิจัย สวรส. ระบุ “บทเรียนกระจายอำนาจ 15 ปี ท้องถิ่นทำงานส่งเสริมป้องกันได้ดี ขณะที่ข้อจำกัดการรักษาพยาบาลและส่วนร่วมจากนโยบายยังมีอยู่ พร้อมชี้ภารกิจส่งเสริมสุขภาพเหมาะกับท้องถิ่นมีโอกาสสำเร็จ ทั้งนี้ เสนอส่งมอบงานวิจัยต่อคณะกรรมการปฏิรูปสาธารณสุขฯ ใช้แก้ปัญหาสุขภาพพื้นที่ 

          จากพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 ได้กำหนดให้มีแผนปฏิบัติการกำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่ อปท. เพื่อเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนการกระจายอำนาจอย่างเป็นรูปธรรม โดย การถ่ายโอนสถานีอนามัย/รพ.สต. ในสังกัด สธ. ให้แก่ อปท. นับเป็นรูปแบบหนึ่งของการกระจายอำนาจทางด้านสุขภาพในช่วงแรก  ซึ่งในราวปี 2550 มีการถ่ายโอนฯ เกิดขึ้น 22 แห่งทั่วประเทศ จากนั้น สวรส. ได้รับมอบให้ทำการวิจัยประเมินผลแผนการกระจายอำนาจด้านสุขภาพให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

          ผศ.ดร.จรวยพร ศรีศศลักษณ์ ผู้จัดการงานวิจัย สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) กล่าวถึงผลการศึกษาในภาพรวมพบว่า การถ่ายโอนอำนาจ ทรัพยากรด้านคน เงิน ของ และการบริหารจัดการงานด้านการส่งเสริมคุณภาพ การป้องกันควบคุมโรค/ฟื้นฟู เป็นไปได้พอสมควร แต่ยังมีข้อจำกัดด้านการรักษาพยาบาลที่ยังต้องดำเนินการปรับปรุงประสิทธิภาพต่อไป รวมไปถึงการมีส่วนร่วมในระดับนโยบายทั้งทางสนับสนุนและคัดค้าน ส่วนบทเรียนการจัดบริการด้านสุขภาพในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ท้องถิ่นสามารถจัดบริการสาธารณะเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนได้หลากหลาย เช่น การให้บริการรักษาพยาบาลเบื้องต้น การตรวจคัดกรองสุขภาพเบื้องต้น ที่เห็นได้ชัดเจนคือ งานป้องกันควบคุมโรคและงานส่งเสริมสุขภาพ ท้องถิ่นสามารถทำได้ดี ขณะที่บางพื้นที่ได้จัดบริการเฉพาะทางด้วย อาทิ บริการด้านแพทย์แผนไทย  ทั้งนี้ ยังพบว่าในหลายๆ พื้นที่ได้มีการเปิดบรรจุแพทย์ พยาบาล เข้ามาทำงานประจำในศูนย์บริการสาธารณสุขของท้องถิ่น

          “อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขมีวิธีการกระจายอำนาจด้านสุขภาพหลายรูปแบบ เช่น การออกนอกระบบของ รพ.บ้านแพ้ว หรือการเป็นโรงพยาบาลองค์การมหาชน การจัดตั้ง 13 เขตบริการสุขภาพ เป็นต้น ดังนั้นการถ่ายโอนภารกิจฯ สู่ อปท. ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของการกระจายอำนาจ จะต้องอาศัยความพร้อมของพื้นที่ ประกอบกับมีการปรับกระบวนทัศน์ที่พร้อมรับภารกิจทางด้านสุขภาพแล้วเป็นสำคัญ”

          ดร.ทพญ.ศิริวรรณ พิทยรังสฤษฏ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ ผู้ศึกษาวิจัยเรื่องบทบาท อปท. และข้อเสนอเชิงนโยบายเรื่องการกระจายอำนาจด้านการสร้างเสริมสุขภาพ โดยการสนับสนุนทุนวิจัยจาก สวรส. กล่าวว่า สุขภาพไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยทางด้านสุขภาพเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงปัจจัยจากมิติต่างๆ เช่น ด้านสันติสุข ที่อยู่อาศัย การศึกษา อาหาร รายได้ สิ่งแวดล้อม เป็นต้น ดังนั้นการทำงานสร้างเสริมสุขภาพจึงต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคส่วนอื่นๆ ร่วมด้วย ผลจากการศึกษาท้องถิ่นกับการสร้างเสริมงานสาธารณสุข พบว่ามีรูปธรรมที่ค่อยๆ ชัดเจนขึ้น เช่น การปรับปรุงตลาดสดให้ถูกสุขลักษณะ การพัฒนาเด็กเล็ก การจัดหานม มีทุนอาหารกลางวันเด็กในโรงเรียน ลานกีฬา การปรับสภาพบ้านคนพิการ เป็นต้น

          “ข้อเสนอจากการศึกษา ระบุว่า การถ่ายโอนภารกิจการส่งเสริมสุขภาพสู่ อบต. เป็นเรื่องที่เหมาะสมกับบทบาทและมีโอกาสประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ ส่วนกลางควรกำหนดเนื้องาน ขั้นตอน และวิธีการถ่ายโอนที่เป็นรูปธรรมชัดเจน ขณะที่นักวิชาการสาธารณสุขในทุกระดับ ควรได้รับการพัฒนาความรู้ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับเครือข่ายสุขภาพระดับชุมชน” ดร.ทพญ.ศิริวรรณ กล่าว

          ดร.มโน มณีฉาย สาธารณสุขอำเภอโคกสำโรง จ.ลพบุรี ผู้ศึกษาวิจัยเรื่องภารกิจและกิจกรรมการดูแลสุขภาพของผู้ให้บริการภาครัฐในระดับตำบล โดยการสนับสนุนทุนวิจัยจาก สวรส. กล่าวว่า จากการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล 383 ตำบล ได้จำแนกภารกิจการดูแลสุขภาพที่มีความเกี่ยวข้องกับ รพ.สต. และ อบต. แบ่งเป็น 1.การรักษาพยาบาลและการให้คำปรึกษา 319 กิจกรรม เช่น ให้คำปรึกษารายกลุ่ม เรื่องการติดเชื้อ HIV  เรื่องวัณโรค คัดกรองประชากรเพื่อค้นหาผู้ป่วยรายใหม่ ผ่าตัดเล็ก เย็บแผล ฯลฯ 2.การส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคและการคุ้มครองผู้บริโภค 136 กิจกรรม เช่น จำแนกประเภทพฤติกรรมสุขภาพที่สอดคล้องกับปัญหาสาธารณสุข จัดระบบการเฝ้าระวังภาวะสุขภาพของประชาชนทุกกลุ่ม ป้องกันโรคติดต่อในชุมชน ส่งเสริมสุขภาพกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง ฯลฯ 3.การสนับสนุนงานสาธารณสุขและอนามัยสิ่งแวดล้อม 124 กิจกรรม เช่น ช่วยเหลือผู้ถูกทอดทิ้งในชุมชน สนับสนุนงบประมาณในการควบคุมโรคไข้เลือดออก สนับสนุนงบประมาณในการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ตรวจรับรองความพิการ 6 ประเภท ประเมินสิ่งแวดล้อมที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพ ฯลฯ

          ภารกิจที่มีจำนวนมากหากจะมีการถ่ายโอนภารกิจด้านสุขภาพแก่ อปท. งานวิจัยได้ชี้ข้อเสนอแนะในการพัฒนาไว้ คือ ส่วนกลางควรมีการจัดทำคู่มือ/แนวทางการดำเนินงานกิจกรรมการดูแลสุขภาพให้กับ รพ.สต.ที่จะถ่ายโอนไปท้องถิ่น การพัฒนาองค์ความรู้และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบด้านการดูแลสุขภาพประชาชนทั้งระดับนโยบาย และผู้ปฏิบัติในพื้นที่ เพื่อให้เกิดความเข้าใจและสามารถนำไปดำเนินการได้ รวมทั้ง การกำหนดนโยบายเกี่ยวกับการกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบการจัดกิจกรรมการดูแลสุขภาพโดยหน่วยงานภาครัฐระดับตำบลให้ชัดเจน

          นอกจากนี้ ในที่ประชุมผู้แทนจากภาคท้องถิ่น ได้เสนอว่า แม้วันนี้ภาคท้องถิ่นจะยังไม่เก่งเทียบเท่าหน่วยงานด้านสาธารณสุขโดยตรง แต่ภาคท้องถิ่นก็ยังเชื่อมั่นในเรื่องของความเข้มแข็งในงานสร้างเสริมสุขภาพ ดังนั้นสิ่งสำคัญก็คือ จะมีทางในการเสริมบทบาทงานสาธารณสุขซึ่งกันและกันได้อย่างไร เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกันคือคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน พร้อมเสนอว่างานวิจัยข้างต้น ควรส่งมอบให้กับคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปด้านสาธารณสุข เพื่อใช้เป็นข้อมูลพิจารณาในงานสาธารณสุขเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพระดับพื้นที่ด้วย ส่วน อปท. พร้อมจะรับการถ่ายโอน รพ.สต. จาก สธ. หรือไม่นั้น ก็ต้องขึ้นอยู่ที่ความพร้อมของแต่ละพื้นที่

          ข้อมูลจากสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สธ. ระบุว่า ปัจจุบันมีดำเนินการถ่ายโอนสถานีอนามัย/รพ.สต. แก่ อปท. แล้วจำนวน 50 แห่ง และอยู่ระหว่างการเตรียมที่จะถ่ายโอนฯ ในเร็วๆ นี้อีก 3 แห่ง รวมเป็น 53 แห่ง คือ รพ.สต.หินดาต อ.ปางศิลาทอง กำแพงเพชร รพ.สต.บ้านเขาสมอคอน อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี รพ.สต.บางน้ำเชี่ยว อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี

รูปภาพเพิ่มเติม
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
(Strictly Necessary Cookies) เปิดใช้งานตลอด

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้