ข่าว/ความเคลื่อนไหว
เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า จากกรณีที่มีการจับกุม ชาวเวียดนาม 4 คน ลับลอบผลิตน้ำส้มคั้นเทียมที่จังหวัดสระบุรี ซึ่งผู้ต้องหามีการสารภาพว่าจดจำสูตรการทำน้ำส้มดังกล่าวมาจากร้านอาหารแห่งหนึ่งที่มีเจ้าของเป็นคนไทยนั้น ล่าสุด อย.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปสุ่มตรวจ และเก็บตัวอย่างร้านขายน้ำส้มคั้นทั้งในส่วนที่เป็นร้านอาหาร และรถเข็นในพื้นที่ กทม. มาตรวจสอบเพิ่มเติมแล้ว ส่วนพื้นที่ต่างจังหวัดนั้น นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เฝ้าระวังอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นในการซื้อน้ำส้มคั้นรับประทานนั้นขอให้ประชาชนหมั่นสังเกต และสอบถามผู้ขายให้ชัดเจนว่ามีขั้นตอนการทำอย่างไร อย่าเพิ่งเชื่อเพียงแค่เห็นเปลือกส้ม หรือผลส้มวางอยู่หน้าร้านเท่านั้น ขอให้ซื้อจากร้านที่เชื่อถือได้
นพ.ไพศาล กล่าวต่อว่า ในการผลิตน้ำส้มคั้นขายนั้นจะมี 2 ส่วนคือ กรณีผลิต บรรจุลงในบรรจุภัณฑ์ปิดสนิทแล้วส่งไปขายตามร้านค้าต่างๆ นั้น เข้าข่ายว่าเป็นโรงงาน ดังนั้น ต้องขออนุญาตจาก อย.ก่อน และประกอบกิจการให้ได้มาตรฐานตามที่กำหนด คือ สถานที่ผลิตต้องได้รับการรับรองมาตรฐานจีเอ็มพี(GMP) หรือมาตรฐานการผลิตที่ดี และถูกสุขลักษณะ โดยหากระบุว่าเป็นน้ำส้มคั้นสด 100% ย่อมหมายความว่าห้ามใส่อะไรลงไปเด็ดขาด แม้แต่สารให้ความหวานอย่าง ขัณฑสกร ก็ห้ามใส่ แต่หากเป็นน้ำผลไม้ผสม ที่ผลิตตามโรงงานนั้นก็ต้องผสมตามสัดส่วนที่ อย.กำหนด คือ ต้องไม่เกิน 80 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม นอกจากนี้ จะต้องมีฉลากแสดงชื่อสินค้า สถานที่ผลิต ส่วนประกอบ รวมถึงมีเลข 13 หลัก ที่ได้รับอนุญาตจากอย. แสดงให้ผู้บริโภคทราบด้วย ส่วนกรณีที่เป็นร้านค้า รถเข็น ที่คั้นสดๆ และจำหน่ายทันทีนั้นทราบว่าต้องขออนุญาตในการเปิดร้านจำหน่ายจากท้องถิ่นด้วย
นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เตรียมตรวจวิเคราะห์น้ำส้มคั้นดังกล่าว ว่ามีสารอื่นปนเปื้อนหรือไม่ คาดว่าใช้เวลาในการตรวจวิเคราะห์ไม่เกิน 1 สัปดาห์
ที่มา : มติชนออนไลน์ วันที่ 24 พ.ค. 2559
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้