4th Floor, National Health Building 88/39 Tiwanon 14 Road Taradkwan, Muang District Nonthaburi 11000
Font Size
-
+
color contrast
C
C
C
Search
เมนู

คอบช. เครือข่ายองค์กรบริหารงานวิจัยแห่งชาติ ร่วมวางแผนเคลื่อนงานวิจัยมุ่งเป้าตอบโจทย์พัฒนาประเทศ พร้อมผลักดันวิจัยหนุน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย หวังแก้ปัญหาและพัฒนาเศรษฐกิจชาติ

สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเครือข่ายองค์กรบริหารงานวิจัยแห่งชาติ (คอบช.) ครั้งที่ 1/2559 เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2559 ที่ผ่านมา  โดยมีผู้บริหารระดับสูงขององค์กรบริหารจัดการงานวิจัยของประเทศซึ่งเป็นสมาชิก คอบช.  ประกอบด้วย ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)   ศ.นพ.สุทธิพันธ์ จิตพิมลมาศ  ผู้อำนวยการ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)  น.ส.กุลวรา โชติพันธุ์โสภณ  รักษาการแทนผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) (สวก.)  น.ส.สุกัญญา ธีระกูรณ์เลิศ รองเลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ  สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.)  ดร.กิติพงค์ พร้อมวงค์ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.)  ร่วมประชุม โดยมี นพ.พีรพล สุทธิวิเศษศักดิ์  ผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) เป็นประธานที่ประชุม ซึ่งในการประชุมครั้งนี้  ผู้บริหารได้ร่วมวางแผนขับเคลื่อนการดำเนินงาน  โดยมีแนวทางการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์  เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่จะนำไปสู่การพัฒนาประเทศต่อไป

นพ.พีรพล  สุทธิวิเศษศักดิ์  ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข กล่าวว่า  การสร้างงานวิจัยที่จะนำไปสู่การพัฒนาประเทศได้   ไม่ว่าจะเป็นการวิจัยเพื่อลดการนำเข้าหรือเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันการส่งออก  สิ่งสำคัญต้องมีการเชื่อมโยงผลลัพธ์งานวิจัยโดยมองภาพรวมของการพัฒนาอย่างรอบด้าน  รวมทั้งต้องมีกระบวนการต่อยอดงานวิจัยให้ไปถึงการใช้ประโยชน์  คอบช. นับเป็นกลไกสำคัญหนึ่งของการขับเคลื่อนงานวิจัย  ด้วยการทำงานที่เน้นการบูรณาการ  ลดความซ้ำซ้อนทั้งด้านทรัพยากรและประเด็นการทำงานได้อย่างดี  ทั้งนี้  งานวิจัยด้านสุขภาพ  ในส่วนที่สามารถต่อยอดไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรมของประเทศได้  เช่น  วิจัยสมุนไพรและการแพทย์แผนไทย  วิจัยยาที่ใช้ทดแทนยาแผนปัจจุบัน  ฯลฯ ซึ่งจะเป็นโอกาสสำคัญของการพัฒนาสู่ระดับโลกได้

ศ.นพ.สุทธิพันธ์ จิตพิมลมาศ  ผู้อำนวยการ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) กล่าวว่า  หลังจากนี้ไปประเทศไทยจะมีงานวิจัยเพิ่มขึ้น  ซึ่งเป็นผลผลิตจากโครงการวิจัยมุ่งเป้าภายใต้การบริหารจัดการงานวิจัยร่วมกับของ คอบช.  ซึ่งงานวิจัยที่เพิ่มขึ้นนั้นมีความสำคัญทั้งที่เป็นวาระชาติ  และเป็นโจทย์ความต้องการของภาคอุตสาหกรรม  ทั้งนี้ คอบช. ต้องหาแนวทางการทำงานเพื่อรองรับความท้าทาย ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพงานวิจัยให้มากขึ้น  โดยเสนอให้มีการปรับปรุงระบบการทำงานร่วมกัน  อาทิเช่น  ระบบการประชุมผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานเพื่อเชื่อมประสานการทำงานให้เกิดความต่อเนื่องและเร่งขับเคลื่อนการสนับสนุนทุนวิจัย  การร่วมค้นหาโจทย์วิจัยเพื่อแก้ปัญหาประเทศ  โดยบูรณาการการทำงานทั้งเชิงการร่วมคิดและร่วมทำ การขยายเครือข่ายสมาชิก คอบช. ให้กว้างขึ้น ทั้งหมดภายใต้การขับเคลื่อนงานวิจัย สู่เป้าหมายสร้างการเปลี่ยนแปลงของประเทศ โดยเครือข่ายองค์กรบริหารงานวิจัยแห่งชาติ

น.ส.สุกัญญา ธีระกูรณ์เลิศ รองเลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ  ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตามที่คณะกรรมการกำกับโครงการวิจัยท้าทายไทย ได้พิจารณาและเห็นชอบแนวทางการบริหารจัดการทุนโครงการท้าทายไทยและโครงการวิจัยเพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาลตามวาระแห่งชาติซึ่งเน้นโจทย์วิจัยที่ท้าทายต่อการพัฒนาประเทศในเรื่องสำคัญๆ โดยระหว่างนี้ วช. ซึ่งเป็นองค์กรหลักในการบริหารจัดการโครงการท้าทายไทย กำลังพิจารณารูปแบบการบริหารจัดการโครงการที่เหมาะสมกับการขับเคลื่อนงานวิจัยที่มีผลกระทบสูงต่อการแก้ปัญหาและพัฒนาประเทศได้อย่างแท้จริง  ซึ่ง คอบช. จะเป็นเครือข่ายการทำงานที่สำคัญในการร่วมขับเคลื่อนโครงการฯให้เป็นระบบและเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น  

ด้าน ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล  ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ  กล่าวถึงการดำเนินงาน ภายใต้การขับเคลื่อนของ คอบช. ในเรื่องแนวทางการใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเสริมสร้างความสามารถการแข่งขันใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย (New Engine of Growth) ของประเทศ ซึ่งมีกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นหน่วยขับเคลื่อนหลักนั้น  ได้ดำเนินการรวบรวมงานวิจัยจากหน่วยงานสมาชิก คอบช. ที่มีความสอดคล้องกับ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายดังกล่าว  โดยรวมได้ทั้งสิ้น 407 โครงการ  แบ่งเป็น 5 อุตสาหกรรมเดิมที่ศักยภาพ (First S-curve) 222 โครงการ ในจำนวนนี้ 129 โครงการ เป็นโครงการวิจัยในอุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ  และใน 5 อุตสาหกรรมอนาคต (New S-curve) มี 185 โครงการ ในจำนวนนี้ 73 โครงการ เป็นโครงการวิจัยในอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ  

ทั้งนี้  ในด้านการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์  ที่ประชุมเสนอแนวทางสำคัญๆ ไว้ ดังนี้  1)  การประสานให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างภาควิชาการกับภาคเอกชน ตลอดจนหน่วยงานผู้ใช้ประโยชน์ที่เกี่ยวข้อง  เพื่อร่วมกำหนดความต้องการใช้ประโยชน์ตั้งแต่ต้นทาง  โดยเริ่มจากการกำหนดทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรมของประเทศที่ควรจะเป็น   การวิเคราะห์ช่องว่างการพัฒนา  ที่จะสร้างงานวิจัยมาอุดช่องว่างหรือเติมเต็มการพัฒนานั้นได้อย่างไร ต่อไป  2)  จัดลำดับความสำคัญและสถานะงานวิจัยที่จะนำไปใช้ประโยชน์  พร้อมๆกับการเติมเต็มองค์ความรู้ที่ยังขาดอยู่ เพื่อผลักดันไปสู่การใช้ประโยชน์ในระดับต่างๆ  3)  สร้างโอกาสและช่องทางสื่อสารระหว่างผู้ผลิตงานวิจัยและผู้ใช้ประโยชน์ เพื่อให้เกิดการนำเสนอผลงานวิจัยและการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน เช่น  งานแสดงผลงานวิจัย  งานสัมมนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น  การเผยแพร่หรือถ่ายทอดเทคโนโลยีผ่านสื่อหรือช่องทางต่างๆ  เป็นต้น  ทั้งนี้  สิ่งที่ คอบช. จะเร่งดำเนินการในขณะนี้ก่อน  คือ การสังเคราะห์งานวิจัยที่มีโอกาสใช้ประโยชน์ได้สูง  เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการผลักดันการใช้ประโยชน์  โดยส่วนหนึ่งจะจัดทำเป็นข้อเสนอเพื่อการปฏิรูประบบวิจัยเสนอต่อสภาปฎิรูปแห่งชาติต่อไปนอกจากนั้น  คอบช. ยังร่วมกันเชื่อมโยงข้อมูลงานวิจัยเข้าสู่ระบบ NRMS  ซึ่งจะเป็นฐานข้อมูลงานวิจัยที่สำคัญของประเทศต่อไป  

 

รูปภาพเพิ่มเติม
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
(Strictly Necessary Cookies) เปิดใช้งานตลอด

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้