4th Floor, National Health Building 88/39 Tiwanon 14 Road Taradkwan, Muang District Nonthaburi 11000
Font Size
-
+
color contrast
C
C
C
Search
เมนู

15 องค์กรรัฐตาม พรบ.เฉพาะ สานพลังเครือข่ายพัฒนาประเทศ

การประชุมวิชาการ 15 หน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติเฉพาะ ประจำปี 2558 ซึ่งจัดเป็นครั้งที่ 3 ภายใต้หัวข้อ “พลังเครือข่ายเพื่อการพัฒนาประเทศ” โดยปีนี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)  เป็นเจ้าภาพในการจัดประชุม เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2558 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

องค์กรตามพระราชบัญญัติเฉพาะเป็นพัฒนาการที่สำคัญขององค์กรภาครัฐที่สะท้อนแนวคิดการจัดการภาครัฐแนวใหม่ ที่มีภารกิจการทำงานเพื่อการพัฒนาประเทศ โดยมีจุดเด่นคือลักษณะการทำงานที่ยืดหยุ่น มีอิสระ คล่องตัว เพิ่มการกระจายอำนาจและการทำงานในลักษณะเครือข่าย เน้นประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อประชาชนและสังคมโดยรวม รวมถึงเพิ่มประสิทธิผลของการบริหารจัดการ โดยเฉพาะใน 4 มิติที่สำคัญ ได้แก่  ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ด้านสุขภาพ  ด้านการศึกษา  และด้านเศรษฐกิจ  ซึ่งทั้ง 15 หน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็น  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)  สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.)  สถาบันอนุญาโตตุลาการ  สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.)  สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)  สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)  สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ (มว.)  สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.)  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)  สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา (คส.)  สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)  สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.)  สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.)  รวมทั้งสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.)  มีเจตนารมณ์ของการก่อตั้งที่แตกต่างกัน  แต่มีเป้าหมายเดียวกัน ในการที่จะเป็นกลไกสำคัญเพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศในมิติต่างๆ   

นายปีติพงศ์  พึ่งบุญ ณ อยุธยา ประธานคณะอนุกรรมาธิการเศรษฐกิจกระแสใหม่ อนุกรรมาธิการเศรษฐกิจสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และประธานการประชุมฯ กล่าวไว้ในการปาฐกถาพิเศษเรื่อง “องค์กรตามพระราชบัญญัติเฉพาะ : พลังเครือข่ายเพื่อการพัฒนาประเทศ” ว่า  “องค์กรอิสระที่จัดตั้งขึ้นตาม พรบ.เฉพาะทั้ง 15 หน่วยงานถือเป็นกลไกที่มีความคล่องตัว ที่จะช่วยเสริมพลังกับหน่วยงานราชการเพื่อการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศในเวลาอันจำกัด โดยการใช้องค์ความรู้ที่หลากหลายอันจะนำไปสู่การขจัดความเหลื่อมล้ำทางด้านเศรษฐกิจ ตลอดจนการพัฒนาประเทศให้เกิดความยั่งยืน ภายใต้การบริหารจัดการองค์กรตามหลักธรรมาภิบาล  

ทั้งนี้วัตถุประสงค์ของการจัดประชุมวิชาการฯ ในครั้งนี้ เพื่อสังเคราะห์และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้จากเครือข่ายที่เป็นองค์กรตามพระราชบัญญัติเฉพาะ  ตลอดจนร่วมกันพัฒนาแนวทางการเชื่อมโยง  ประสานพลัง  และเสริมสร้างความเข้มแข็งในการทำงานร่วมกันระหว่างองค์กร  โดยในการประชุมวิชาการฯ ยังมีการปาฐกถาและเสวนาถึงบทบาทขององค์กรตามพระราชบัญญัติเฉพาะที่มีต่อการพัฒนาประเทศ วิสัยทัศน์ ผลงานและคุณค่า พร้อมเป้าหมายที่ท้าทายในอนาคต  การปาฐกถาหัวข้อ “ธรรมาภิบาลขององค์กรตามพระราชบัญญัติเฉพาะ”  การเสวนา หัวข้อ “ธรรมาภิบาลขององค์กรตามพระราชบัญญัติเฉพาะ สร้างสมดุลของประสิทธิภาพและการตรวจสอบ”  โดยตัวแทนผู้ตรวจสอบ อาทิ สตง. กรมบัญชีกลาง  และตัวแทนองค์กรตาม พรบ.เฉพาะ เพื่อชี้ให้เห็นถึงการทำงานขององค์กรตามพระราชบัญญัติเฉพาะ ซึ่งมีลักษณะการดำเนินงานที่ยืดหยุ่น มีกฎหมายรองรับในบริบทที่แตกต่างกัน  แต่ทุกองค์กรดำเนินงานภายใต้หลักธรรมาภิบาล  โดยตระหนักเสมอว่างบประมาณของแผ่นดินที่ได้รับการจัดสรรมาต้องมีการใช้อย่างมีธรรมาภิบาล มีประสิทธิภาพ รวมทั้งเกิดประโยชน์กับประชาชนและการพัฒนาประเทศมากที่สุด  ซึ่งต้องร่วมกันสร้างสมดุลระหว่างการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพและการตรวจสอบที่มีความถูกต้อง โปร่งใสเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล   นอกจากนี้ภายในงานประชุมวิชาการฯ ทั้ง 15 หน่วยงานฯ ได้ร่วมออกบูธนิทรรศการ เพื่อนำเสนอนวัตกรรมและผลงานเด่นของแต่ละหน่วยงานอีกด้วย โดยมีผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นผู้แทนจากทั้ง 15 หน่วยงานฯ เข้าร่วมประชุมราว 400 คน

รูปภาพเพิ่มเติม
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
(Strictly Necessary Cookies) เปิดใช้งานตลอด

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้