เมื่อวันที่ 28 มีนาคม นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมบัญชีกลางได้ร่วมกับสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) เข้าสุ่มตรวจเวชระเบียนของโรงพยาบาลรัฐ เพื่อตรวจสอบการสั่งจ่ายยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติทั้งในส่วนของผู้ป่วยแพทย์ และโรงพยาบาล โดยไม่ได้รับการอนุมัติหากพบ จะเรียกเงินคืน ซึ่งขณะนี้พบว่ามีบางแห่งทำผิด จึงเรียกเงินคืนจากโรงพยาบาลแล้ว50 ล้านบาท อีกทั้งกำลังเร่งจัดทำมาตรฐานราคากลางยาด้วย เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนเข้ามามากว่าราคายาที่จ่ายโดยโรงพยาบาลบางแห่งแพงเกินกว่าราคายาที่ซื้อจากภายนอก ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคสูงมาก
นายรังสรรค์กล่าวว่า กรมบัญชีกลางเข้มงวดมากขึ้นในการสั่งจ่ายยานอกบัญชียาหลักว่าต้องมีความเห็นแพทย์ 3 คนลงความเห็นให้สั่งจ่ายได้เพราะยาบางตัวแพงนับล้านบาท เช่น ยารักษาโรคมะเร็ง ซึ่งต้องให้กรมอนุมัติก่อน หากพบว่าไม่มีแพทย์ลงความเห็นจะเรียกเงินคืนทันที และไม่จ่ายเงินที่จะเบิกงวดต่อไป เพราะช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว "ปีที่ผ่านมา มียอดเบิกจ่ายถึง62,195 ล้านบาท จากเป้าหมายที่วางไว้เพียง48,500 ล้านบาท และปีนี้วางเป้าหมายไว้ที่62,000 ล้านบาท จะพยายามลดรายจ่ายลงให้ได้ 5,000 ล้านบาท ซึ่ง 5 เดือนที่ผ่านมาเบิกจ่ายไปแล้ว 25,231 ล้านบาท แต่จากการที่กรมเข้มงวดการเบิกจ่ายและอุดช่องโหว่ในการทุจริตราคายาเพิ่มขึ้น ทำให้ช่วยลดปัญหาได้ระดับหนึ่ง" นายรังสรรค์กล่าว และว่า เร็วๆ นี้ กรมจะเชิญบริษัทจำหน่ายยา โรงพยาบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือร่วมกัน เพื่อปรับปรุงบัญชียาหลักแห่งชาติ และอาจต้องทำให้ราคายาประเภทเดียวกันที่ใช้รักษาในโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้ามีราคาเดียวกับยาที่ใช้รักษาให้กับราชการ
ที่มา : มติชน ฉบับวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2554
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้
Twitter