4th Floor, National Health Building 88/39 Tiwanon 14 Road Taradkwan, Muang District Nonthaburi 11000
Font Size
-
+
color contrast
C
C
C
Search
เมนู

สวรส.จัด Journal Club เรื่องการควบคุมค่าใช้จ่ายด้านยา กรณีศึกษา กลูโคซามีน

          หลังจากที่กรมบัญชีกลางได้มีประกาศให้ระงับการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล ข้าราชการในส่วนของยาบรรเทาอาการข้อเข่าเสื่อม กลุ่มยากลูโคซามีน ทำให้เกิดความเห็นที่แตกต่างจำนวนไม่น้อยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกลุ่มผู้ใช้สิทธิข้าราชการที่ได้รับผลกระทบ จนเป็นประเด็นที่สังคมกำลังให้ความสนใจในขณะนี้ สำหรับกรณีดังกล่าว เป็นการเปลี่ยนแปลงในระบบสุขภาพที่มีผลจากงานวิชาการของคณะทำงานวิชาการ ทางการแพทย์ โดยมีสำนักงานวิจัยเพื่อการพัฒนาหลักประกันสุขภาพไทย (สวปก.) เครือสถาบันของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) เป็นแกนหลักในการผลักดันครั้งนี้ ดังนั้นเพื่อให้ความรู้ในเรื่องดังกล่าวได้มีการขยายผลต่ออย่างถูกต้อง สวรส. จึงได้จัดให้มีกิจกรรม Journal Club ในประเด็นเรื่อง การควบคุมค่าใช้จ่ายด้านยา เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมีนพ.สัมฤทธิ์  ศรีธำรงสวัสดิ์ ผู้อำนวยการ สวปก. เป็นวิทยากรบรรยายข้อมูลเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้ที่สนใจจากเครือสถาบันต่างๆ ของ สวรส.

          นพ.สัมฤทธิ์  ศรีธำรงสวัสดิ์ กล่าวถึง ข้อมูลที่เป็นจริงสำหรับการใช้จ่ายด้านยาคือ ปี 2548 ประเทศไทยใช้จ่ายยาเกือบ 2 แสนล้านบาท โดยสัดส่วนค่ายามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องรวมทั้งมูลค่ายานำเข้าก็มี แนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน ส่วนค่าใช้จ่ายระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ ก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยค่าใช้จ่ายผู้ป่วยนอกเพิ่มมากขึ้นหลังปี 2543 และมีอัตราเพิ่มระหว่างปี 2547-2551 กว่าร้อยละ 20  ค่าใช้จ่ายผู้ป่วยนอกร้อยละ 83 เป็นค่ายา ในขณะที่ค่าใช้จ่ายผู้ป่วยในค่อนข้างคงที่หรือเพิ่มเพียงเล็กน้อย  ส่วนรายจ่ายงบประมาณภาครัฐแยกตามกองทุน พบว่าระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าครอบคลุมประชากร 75%  แต่ใช้เงินรัฐเพียง 32%  ส่วนรายจ่ายสวัสดิการข้าราชการครอบคลุมประชากรไม่ถึง 10% แต่ใช้เงินรัฐถึง 21% 

          นพ.สัมฤทธิ์ กล่าวต่อว่า ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 ต่อปีติดต่อกันสามปี โดยร้อยละ 83 ของค่ารักษาพยาบาลที่เบิก เป็นค่าใช้จ่ายด้านยา  อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลของโรงพยาบาลใหญ่ 34 แห่ง มีส่วนแบ่งการให้บริการผู้ป่วยนอกคิดเป็นร้อยละ 35 ของจำนวนที่เบิก โดยค่ารักษาพยาบาลที่เบิกคิดเป็นร้อยละ 60 ของการเบิกจ่ายทั้งหมด คิดเป็นจำนวนเงิน 22,000 ล้านบาท จากข้อมูลดังกล่าว กรมบัญชีกลางจึงจัดประชุมชี้แจงปัญหาและขอความร่วมมือจากโรงพยาบาลที่มีผู้ มีสิทธิรับบริการเกินกว่า 1 แสนครั้ง/ปี ในการควบคุมค่าใช้จ่ายด้านยา ซึ่งจำเป็นต้องมีระบบข้อมูลการสั่งจ่ายยาเพื่อการติดตามและประเมินผล ต่อมาเมื่อวิเคราะห์ข้อมูลการใช้ยาในภาพรวม จำแนกรายกลุ่ม เปรียบเทียบระหว่างโรงพยาบาล โดยประมาณการมูลค่าที่สามารถประหยัดได้หากเปลี่ยนมาใช้ยาในบัญชียาหลักและยา ชื่อสามัญแล้ว ก็ได้สะท้อนข้อมูลกลับให้โรงพยาบาลพบว่า ค่าใช้จ่ายในปี 2553 เพิ่มขึ้นเพียง 1.4% เป็นเพราะได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลค่อนข้างดี และมีระบบข้อมูลที่ดีทำให้ใช้ยาอย่างสมเหตุผลและควบคุมค่าใช้จ่ายได้

          “ส่วนกรณีศึกษาเรื่องยากลูโคซามีนนั้น การที่ยาตัวนี้ถูกเลือกมาดำเนินการเป็นกลุ่มแรก เพราะมีรายงานการศึกษาชัดเจนว่าไม่มีความคุ้มค่า เป็นยาที่ใช้เพื่อ maintenance และการไม่ได้รับยานี้ ไม่ได้มีผลกระทบต่อผู้ป่วยรุนแรง นอกจากนั้นยังมีข้อมูลจากหลายประเทศว่าไม่อนุญาตให้มีการเบิกจ่ายในระบบ ประกันสุขภาพ ซึ่งนักวิจัยได้ทำการทบทวนเอกสารอย่างเป็นระบบในด้าน effectiveness และ efficiency รวมถึง reimbursement policy แล้วต่อจากนั้นได้ส่งข้อมูลที่ทบทวนให้ทางราชวิทยาลัย สมาคม มูลนิธิ กลุ่มบริษัทยาเพื่อให้โต้แย้งและส่งหลักฐานวิชาการเพิ่มเติม และได้ส่งความเห็นไปยังคณะกรรมการบริหารระบบสวัสดิการฯ เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป” นพ.สัมฤทธิ์ กล่าว

          อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาได้มีข้อมูลสะท้อนกลับผ่านสื่อต่างๆ จากหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลจากกรมบัญชีกลาง กระทรวงสาธารณสุข นักวิชาการต่างๆ รวมถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการไม่ได้รับยาดังกล่าว ดังนั้นบทบาทที่สำคัญของทีมวิชาการในเรื่องนี้คือ การสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้อง ชัดเจน เพื่อสร้างความเข้าใจและเปลี่ยนความเชื่อของผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อม ตลอดจนกระตุ้นให้สังคมได้ตระหนักถึงการใช้งบประมาณของประเทศที่มาจากภาษีของ ประชาชนให้คุ้มค่ามากที่สุด

     นอกจากนั้นยังมีความคาดเคลื่อนของข่าวที่เข้าใจว่ากรมบัญชีกลางจะยกเลิกการ เบิกจ่ายยาที่เหลืออีก 8 กลุ่มนั้นมิได้เป็นความจริง เนื่องจากยาที่เหลืออีก 8 กลุ่มนั้นมีความจำเป็นต้องใช้แต่ที่ผ่านมามีการใช้อย่างไม่สมเหตุสมผล ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อให้มีการใช้อย่างสมเหตุสมผล ต่อไปเท่านั้น

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
(Strictly Necessary Cookies) เปิดใช้งานตลอด

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้