4th Floor, National Health Building 88/39 Tiwanon 14 Road Taradkwan, Muang District Nonthaburi 11000
Font Size
-
+
color contrast
C
C
C
Search
เมนู

สวรส. ผนึกพลัง 15 องค์กรรัฐตาม พ.ร.บ.เฉพาะ มุ่งเป้าขับเคลื่อนงานสู่การพัฒนาประเทศอย่างเป็นรูปธรรม

          จากการพัฒนาประเทศช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา  องค์กรตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เฉพาะ ถือเป็นนวัตกรรมที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศ  ประกอบด้วย  15 หน่วยงาน  ที่มีทั้งองค์กรด้านสุขภาพ  วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  การศึกษา  และกองทุนสนับสนุน  ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการรวมตัวเพื่อการเชื่อมโยงและเสริมพลังการทำงาน  ตลอดจนการพัฒนาประเด็นความร่วมมือใหม่ๆ เพื่อการพัฒนาประเทศมาเป็นระยะ ทั้งนี้  การดำเนินการต่างๆ ได้ดำเนินมาจนเกิดการพัฒนาแนวคิดการจัดตั้งกลไกกลางที่มีประสิทธิภาพในระดับผู้บริหาร นำมาสู่การร่วมลงนาม “บันทึกข้อตกลงความร่วมมือที่ประชุมผู้บริหารองค์กรของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติเฉพาะ” เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งวัตถุประสงค์หลักของความร่วมมือครั้งนี้  เพื่อประสานพลังและบูรณาการงานตามภารกิจของแต่ละองค์กรที่จะนำไปสู่การสนับสนุนกระบวนการพัฒนาประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม  และเพื่อเกิดความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนและจัดการความรู้ระหว่างองค์กร  รวมถึงการถ่ายทอดบทเรียนองค์ความรู้สู่องค์กรของรัฐตาม พ.ร.บ.เฉพาะที่เกิดขึ้นใหม่ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับการพัฒนาประเทศและสังคม  โดยการลงนามความร่วมมือดังกล่าวได้จัดขึ้น ณ อาคารพระจอมเกล้า กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

          ดร.ทวีศักดิ์  กออนันตกูล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารองค์กรของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.เฉพาะ กล่าวว่า องค์กรของรัฐตาม พ.ร.บ.เฉพาะ นับเป็นพัฒนาการสำคัญขององค์กรภาครัฐ ที่สะท้อนแนวคิดการจัดการภาครัฐแนวใหม่ ที่มีภารกิจการทำงานเพื่อประเทศชาติและมีกฎหมายรองรับในบริบทที่แตกต่างกัน  ภายใต้แนวคิดการก่อตั้งในลักษณะเดียวกัน  โดยทุกองค์กรถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อเติมเต็มการทำงานที่ระบบราชการมีข้อจำกัด  เพื่อให้สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีลักษณะการดำเนินงานที่ยืดหยุ่น มีอิสระคล่องตัว เพิ่มการกระจายอำนาจและการมีส่วนร่วมของหลายภาคส่วน ตลอดจนเน้นประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการบริหารจัดการให้ดียิ่งขึ้น  

          “ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา องค์กรตาม พ.ร.บ.เฉพาะได้มีการรวมตัวกันเพื่อเชื่อมประสานความร่วมมือในรูปแบบต่างๆ อาทิ การจัดเวทีประชุมหารือร่วมกันอย่างต่อเนื่อง  การจัดประชุมวิชาการ  การจัดกิจกรรมกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ ฯล  ทำให้เกิดการประสานการทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี  ซึ่งเชื่อว่าการจัดกลไกกลางเพื่อการประชุมผู้บริหารองค์กรรัฐตาม พ.ร.บ.เฉพาะ ระหว่าง 15 องค์กร หรือ เรียกย่อๆ ว่า ทอพ.นั้น  จะเป็นกลไกสำคัญในการบริหารและขับเคลื่อนการทำงานร่วมกันอย่างมีเป้าหมายและทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้น  โดยมีสำนักงานเลขาธิการเป็นทีมทำงานที่มีตัวแทนจากองค์กรทั้งหมด  ซึ่งมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านพร้อมจะเสริมพลังกัน เพื่อสร้างความเข้มแข็งของการทำงานในทุกด้านให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ และเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทยทุกคน” ดร.ทวีศักดิ์ กล่าว

          ด้าน นพ.ภูษิต  ประคองสาย รักษาการผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข กล่าวว่า  สวรส.ในฐานะที่เป็นองค์กรตาม พ.ร.บ.เฉพาะที่อยู่ในกลุ่มมิติสุขภาพ และเป็นองค์กรทางด้านวิชาการ พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือ ซึ่งการรวมตัวของแต่ละองค์กรในครั้งนี้ที่ล้วนแต่เป็นองค์กรที่มีศักยภาพในหลากหลายด้านที่พลังของการรวมตัวน่าจะเป็นต้นทุนที่ดีของการสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในสังคมและส่งผลต่อการพัฒนาประเทศได้ในอนาคต

          ทั้งนี้ในการประชุมผู้บริหารฯ ได้มีมติให้จัดตั้งคณะทำงาน 4 คณะ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการทำงานร่วมกันในประเด็นต่างๆ ประกอบด้วย  
          1) คณะทำงานด้านระบบอภิบาลและการบริหารองค์กร   ขอบเขตการทำงาน เพื่อศึกษาแนวปฏิบัติที่ดีในการบริหารและกำกับดูแลการดำเนินงานขององค์กรและภาพรวมของกลุ่มองค์กรที่จัดตั้งตาม พ.ร.บ.เฉพาะ ให้สามารถมีความยืดหยุ่น คล่องตัว และมีอิสระในการตัดสินใจได้ทันท่วงทีตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง  และนำไปสู่การพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน    
          2) คณะทำงานด้านการสนับสนุนการพัฒนาประเทศ  ขอบเขตการทำงาน เพื่อศึกษาโอกาสการพัฒนานโยบาย และแนวทางการดำเนินงาน ตลอดจนออกแบบกระบวนการการบูรณาการองค์กรเพื่อให้เกิดการประสานพลังในการที่จะนำผลงานตามภารกิจของแต่ละองค์กรไปสนับสนุนกระบวนการพัฒนาประเทศอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมมีการสื่อสารประชาสัมพันธ์เพื่อให้เกิดการรับรู้ต่อสาธารณะ
          3) คณะทำงานด้านการพัฒนาศักยภาพบุคลากร ขอบเขตการทำงาน เพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิด วิธีการปฏิบัติงานด้านการบริหารบุคลากรและการพัฒนาศักยภาพบุคลากรของหน่วยงาน  ซึ่งบุคลากรนับเป็นทรัพยากรสำคัญของการพัฒนาองค์กรและการพัฒนาประเทศ
          4) คณะทำงานด้านการจัดการความรู้และประชุมวิชาการ ขอบเขตการทำงาน เพื่อกำหนดหัวข้อความรู้ที่มีความสนใจร่วมและเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานร่วมกัน เพื่อให้เกิดการจัดการความรู้จากประสบการณ์การดำเนินงานของแต่ละองค์กร  และนำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ

          อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะมีการประชุมเพื่อการวางแผนการดำเนินงาน และกำกับติดตามการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระยะ เพื่อเร่งให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพ และส่งผลต่อการพัฒนาประเทศอย่างเป็นรูปธรรม

หมายเหตุ : 15 องค์กรตามพระราชบัญญัติเฉพาะ  ประกอบด้วย  สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.)  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)  สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.)  สถาบันอนุญาโตตุลาการ  สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.)  สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)  สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)  สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ (มว.)  สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.)  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)  สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา (คส.)  สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)  สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.)  สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) 

รูปภาพเพิ่มเติม
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
(Strictly Necessary Cookies) เปิดใช้งานตลอด

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้