4th Floor, National Health Building 88/39 Tiwanon 14 Road Taradkwan, Muang District Nonthaburi 11000
Font Size
-
+
color contrast
C
C
C
Search
เมนู

สวรส. นำเสนอความก้าวหน้า ผลักดัน กม.วิจัยสุขภาพครบวงจร

            ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหารระดับสูง เปิดงานมหกรรมการแสดงผลงานรอบ 3 เดือน กระทรวงสาธารณสุข เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบความคืบหน้าผลการดำเนินงานด้านสาธารณสุข รอบ 3 เดือน (12 กันยายน - 12 ธันวาคม 2557) ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข

            กระทรวงสาธารณสุข โดย ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สธ. ได้ให้ความสำคัญในการยกระดับคุณภาพบริการสาธารณสุข ลดความเหลื่อมล้ำ และเพิ่มการเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐานและจำเป็น โดยเฉพาะในระดับรากหญ้า โดยกำหนดเป็นนโยบายสำคัญของกระทรวง 10 เรื่อง และแปลงไปสู่การปฏิบัติเป็นกิจกรรม/โครงการไม่ต่ำกว่า 50 โครงการย่อย มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมในรอบ 3 เดือน ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างชัดเจน 4 ด้าน ได้แก่ 1.การพัฒนาระบบบริการ 2.การควบคุมป้องกันโรค 3.สร้างความโปร่งใสขององค์กร และ 4.การออกกฎหมายสำคัญเพื่อเป็นเครื่องมือในการพัฒนางานสาธารณสุข

            ทางด้าน สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส) โดยมี ผศ.ดร.จรวยพร ศรีศศลักษณ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร สวรส. ร่วมนำเสนอความก้าวหน้าตามนโยบายการสนับสนุนการวิจัยสุขภาพอย่างครบวงจร (ข้อ 9) โดยเสนอ “การผลักดันกฎหมายจัดตั้งสถาบันวิจัยสุขภาพ กับ (ร่าง) พรบ.ส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยสุขภาพ พ.ศ....” สู่บทบาทที่ครอบคลุมทุกมิติงานวิจัยด้านสุขภาพของประเทศ

            จากสาระสำคัญของการนำเสนอความก้าวหน้าของ สวรส. ได้ชูประเด็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ที่สังคมจะได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นจากกฎหมายใหม่ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยสุขภาพที่ครอบคลุมทุกมิติของงานวิจัยด้านสุขภาพ  ตั้งแต่งานวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพพื้นฐาน ไปจนถึงการวิจัยระบบสาธารณสุข  ให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายใหม่ๆ ของปัญหาสุขภาพในอนาคต พร้อมสามารถบูรณาการทั้งในระดับนโยบาย แหล่งทุนวิจัย ตลอดจนการพัฒนาศักยภาพของนักวิจัยหรือผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ การนำผลการวิจัยไปใช้ประโยชน์ และการประเมินผล ควบคู่ไปกับการสนับสนุนเกิดการสร้างนักวิจัยที่เป็นบุคลากรสำคัญของการพัฒนาประเทศในทุกด้าน การส่งเสริมให้เกิดงานวิจัยสุขภาพที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีสุขภาวะที่ดี (Well being) รวมทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้านสุขภาพที่จะช่วยสร้างรายได้และความมั่นคงด้านสุขภาพให้แก่ประเทศ (Wealth)

            ทางด้าน สาระสำคัญของ (ร่าง) พ.ร.บ.ฯ นั้น จะแบ่งเป็น

            1. “บทบาท” ที่ครอบคลุมทุกมิติงานวิจัยด้านสุขภาพ ได้แก่ วิจัยทางวิทยาศาสตร์พื้นฐาน วิจัยทางคลินิก วิจัยเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ วิจัยระบบสุขภาพ วิจัยทางสาธารณสุขและสังคม  และการวิจัยอื่นๆ ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยมีการดำเนินงานที่สอดคล้องกับนโยบายการวิจัยแห่งชาติ

            2. "คณะกรรมการ” กำกับทิศทาง นำสู่การเปลี่ยนเปลง ประกอบด้วย  2 ชุดหลัก  คือ 1) คณะกรรมการส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยสุขภาพ  มีจำนวน 16 คน  ทำหน้าที่กำหนดนโยบาย ทิศทางการวิจัยสุขภาพของประเทศ  แนวทางการสนับสนุนทุนวิจัยสุขภาพที่เหมาะสม  2) คณะกรรมการติดตามประเมินผลการส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยสุขภาพ  มีจำนวน 7 คน  ทำหน้าที่ติดตามและประเมินผลการบริหารกองทุนและประเมินผลการดำเนินงานให้สอดคล้องกับนโยบายและเป้าหมายที่กำหนด

            3. “สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยสุขภาพ” กลไกหลักขับเคลื่อนการดำเนินงาน มีหน้าที่จัดทำข้อเสนอเพื่อการกำหนดนโยบายและดำเนินงานด้านการวิจัยสุขภาพเสนอคณะกรรมการเพื่อพิจารณา ดำเนินการบริหารจัดการทุนวิจัยด้านสุขภาพ การเสริมสร้างศักยภาพและขีดความสามารถของนักวิจัย ผลักดันการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งการจัดทำแผนการติดตามประเมินผลการวิจัยสุขภาพ

            ทั้งนี้ ในการผลักดันกฎหมายจัดตั้งสถาบันวิจัยสุขภาพนั้น ทาง สวรส. ได้เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นต่อ (ร่าง) พ.ร.บ. ไปแล้วเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา และยังอยู่ในกระบวนการเสนอ (ร่าง) พ.ร.บ.ฯ ต่อคณะกรรมการ สวรส. ในการพิจารณาความเหมาะสมของเนื้อหาสาระ เพื่อเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีในโอกาสถัดไป

รูปภาพเพิ่มเติม
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
(Strictly Necessary Cookies) เปิดใช้งานตลอด

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้