ข่าว/ความเคลื่อนไหว
ปัจจุบันทารกที่คลอดด้วยการผ่าตัดนั้น มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคภูมิแพ้สูงกว่าทารกที่คลอดด้วยวิธีธรรมชาติ สาเหตุเกิดจากอะไร ติดตามจาก ผศ.นพ.มานพชัย ธรรมคันโธ ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
โดยเฉลี่ยเด็กมากกว่า 30-40% จะป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ และในอนาคตเด็กที่โตเป็นผู้ใหญ่ มีแนวโน้มที่จะป่วยเป็นโรคเรื้อรังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะภูมิแพ้ เช่น พันธุกรรม มลพิษที่มีอยู่ทั่วไป อายุที่เปลี่ยนแปลง และส่วนหนึ่งที่องค์การอนามัยโลกได้วิจัยมาแล้วว่า เกิดจากการคลอดทารกโดยวิธีผ่าตัดทางหน้าท้อง ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เด็กจำนวนมากป่วยเป็นโรคภูมิแพ้เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน
ในอดีตที่ผ่านมาทารกส่วนใหญ่ที่อยู่ในครรภ์มารดา เมื่อครบกำหนดก็จะคลอดด้วยวิธีธรรมชาติ กล่าวคือ ทารกจะเคลื่อนออกจากมดลูกผ่านลงมายังช่องคลอด และได้รับจุลชีพโพรไบโอติกที่เป็นประโยชน์ ซึ่งอยู่ในช่องคลอดและในลำไส้ใหญ่ส่วนล่าง ใกล้ๆ ทวารหนักของคุณแม่ รวมถึงที่ปนอยู่กับมูกเลือดในช่องคลอด ผ่านเข้าทางปากและจมูกของทารก โดยจุลชีพนี้จะไปกระตุ้นให้ร่างกายเริ่มพัฒนาระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้สมบูรณ์
ต่างจากวิธีการผ่าตัดคลอดที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน ที่ทารกจะคลอดออกมาทางแผลผ่าตัดหน้าท้อง ทำให้หมดโอกาสที่จะได้รับจุลชีพโพรไบโอติกในช่องคลอดและลำไส้ใหญ่ส่วนล่าง นอกจากนี้ในการผ่าตัดคลอด คุณแม่ส่วนใหญ่มักจะได้รับยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อขณะผ่าตัด ทำให้เชื้อจุลชีพ ทั้งเชื้อก่อโรคและโพรไบโอติกถูกฆ่าทำลายไปด้วยกัน ก็ยิ่งทำให้ทารกหมดโอกาสที่จะได้รับจุลชีพโพรไบโอติก และอาจได้รับเชื้อจุลชีพก่อโรคภายในโรงพยาบาล
ปัจจุบันมีทารกและเด็กเป็นภูมิแพ้มากขึ้นจนน่าเป็นห่วง เมื่อดูประวัติการคลอดพบว่า เด็กที่คลอดโดยการผ่าตัด มีอัตราการเจ็บป่วยมากกว่าเด็กที่คลอดด้วยวิธีปกติ 3-4 เท่า อย่างไรก็ดี โดยทั่วไปสูติแพทย์จะแนะนำให้คุณแม่ทุกคนคลอดด้วยวิธีธรรมชาติตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ก่อน เพราะเสียเลือดน้อย ฟื้นตัวไว เจ็บแผลน้อยกว่า และมดลูกกลับสู่ภาวะปกติได้เร็วกว่าการผ่าคลอด ซึ่งควรเป็นทางเลือกที่มีความจำเป็นสำหรับคุณแม่และทารก หรือตามข้อบ่งชี้ของมาตรฐานการดูแลสตรีมีครรภ์ขณะคลอดเท่านั้น
ข้อมูลจาก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล น.พ.สุรพงศ์ อำพันวงษ์
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้