ข่าว/ความเคลื่อนไหว
LOINC (Logical Observation Identifiers Names and Codes) อ่านออกเสียงว่า “หลอยค์” ระบบชื่อและรหัสมาตรฐานสากล (Standard name and coding system) ที่ใช้ระบุชนิดของการตรวจทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์และการตรวจทางคลินิก ซึ่ง LOINC เปรียบเสมือนภาษาในการสื่อสารที่ทำให้ระบบข้อมูลการตรวจทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ และระบบระเบียนสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ที่ต่างระบบกัน สามารถเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการตรวจทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์และการตรวจทางคลินิกทำงานร่วมกันได้
ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีรหัสมาตรฐานดังกล่าว ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ข้อมูลทางคลินิกที่เกี่ยวข้องกับการตรวจทางห้องปฏิบัติการทางคลินิก (Laboratory Information) ของหน่วยงานต่างๆ ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ การมีรหัสมาตรฐานข้อมูลทางคลินิกที่เกี่ยวข้องกับการตรวจทางห้องปฏิบัติการทางคลินิกที่ใช้ร่วมกันได้ทั้งประเทศ จะเกิดประโยชน์กับหน่วยงานในระบบสุขภาพ ทั้งเพื่อการดูแลรักษาคนไข้ เพื่อการรายงานทางระบาดวิทยา เพื่อการบริหารทรัพยากร เพื่อการบริหารจัดการการประกันสุขภาพและการเงินการคลังระบบสุขภาพ ตลอดจนเพื่อสนับสนุนการวิจัยทางคลินิกและทางสาธารณสุข ซึ่งจะส่งผลทำให้ระบบการบริการสุขภาพของประเทศมีประสิทธิภาพขึ้นทั้งด้านคุณภาพการรักษาพยาบาล และทางเศรษฐศาสตร์สุขภาพ
จากรายงานผลการวิจัยเรื่องสถานการณ์ปัจจุบันของการพัฒนาอีเฮลท์ (eHealth) และระบบข้อมูลสารสนเทศสุขภาพของประเทศไทย ที่สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการร่วมกับองค์การอนามัยโลกในปี พ.ศ. 2553 พบว่า ประเทศไทยมีการพัฒนาบริการและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสุขภาพ (eHealth applications and services) ค่อนข้างแพร่หลาย แต่เป็นการพัฒนาที่กระจัดกระจาย ขาดแนวทางการพัฒนาที่ชัดเจน รวมถึงขาดการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานต่างๆ และที่สำคัญขาดการพัฒนาในระดับพื้นฐานของระบบฯ ทั้งด้าน 1) การให้ความสำคัญระดับนโยบาย และการกำกับดูแลในระดับประเทศ 2) การพัฒนามาตรฐานข้อมูลสุขภาพของประเทศ 3) การพัฒนากำลังคนด้านระบบสารสนเทศและเทคโนโลยีสารสนเทศสุขภาพ รวมถึงการพัฒนาระบบการศึกษาอบรมในสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศสุขภาพ
ดังนั้นศูนย์พัฒนามาตรฐานระบบข้อมูลสุขภาพไทย (ศมสท.) เครือสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) เห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดการประชุม “แนวทางการนำมาตรฐานการตรวจทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์มาใช้ในระบบสุขภาพไทย” ขึ้น ในวันที่ 20 พ.ย. 2557 ที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายแนวคิดการนำชื่อและรหัส LOINC ไปใช้ในรหัสห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ของประเทศไทย พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากนักวิชาการ ตัวแทนหน่วยบริการ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความร่วมมือของการพัฒนารหัสมาตรฐานห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ในระยะต่อไป
นพ.บุญชัย กิจสนาโยธิน นักวิชาการ ศมสท. กล่าวว่า LOINC เป็นรหัสมาตรฐานฯ ระดับนานาชาติที่ควรนำมาใช้ในระบบข้อมูลสุขภาพไทย เนื่องจากมีข้อดีที่เห็นได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น 1) มีความเป็นสากลครอบคลุมการตรวจทางห้องปฏิบัติการที่มีอยู่เกือบทั้งหมด และออกแบบวิธีการกำหนดรหัสให้สามารถรองรับเทคโนโลยีการตรวจใหม่ๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้นในอนาคต 2) เป็นรหัสมาตรฐานที่มีการยอมรับ และใช้กันอย่างกว้างขวาง ทั้งในสหรัฐ แคนาดา เยอรมัน สเปน อาร์เจนตินา สวิสเซอร์แลนด์ และอีกหลายประเทศ มีกระบวนการบำรุงรักษาฐานข้อมูลอย่างเป็นระบบ มีระบบสนับสนุนและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนมีการขยายเครือข่ายการร่วมพัฒนาออกไปในหลายประเทศ 3) มีโปรแกรม mapping ที่เรียกว่า RELMA (Regenstrief LOINC Mapping Assistant) 4) สามาถนำไปใช้ได้ฟรี โดยไม่มีค่าลิขสิทธิ์ แต่เนื่องจากความรู้เกี่ยวกับรหัส LOINC ยังเป็นองค์ความรู้ใหม่ที่ยังไม่มีในประเทศไทย ดังนั้นจึงต้องมีการพัฒนาและจัดทำแนวทางการนำมาตรฐานดังกล่าวมาใช้ โดยการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ และระดมความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลรายการตรวจทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ อย่างเช่นนักเทคนิคการแพทย์ เพื่อจะได้นำไปกำหนดเป็นข้อเสนอการพัฒนาระบบข้อมูลด้านสุขภาพของประเทศ และแนวทางในการจัดทำมาตรฐานรหัสทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ได้อย่างครอบคลุมและครบถ้วน โดยในการประชุมครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมประชุมจากหลายหน่วยงาน อาทิ นักเทคนิคการแพทย์จากโรงพยาบาลทั่วประเทศจำนวน 60 แห่ง ตัวแทนจากกรมบัญชีกลาง บริษัทซอฟแวร์ และผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องรวมทั้งหมดประมาณ 90 คน
ด้าน นพ.เทียม อังสาชน ผู้อำนวยการ ศมสท. และที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในอนาคตอันใกล้ กรมบัญชีกลางได้มีแนวทางในการสนับสนุนให้มีการพัฒนามาตรฐานรหัสการตรวจทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์เพื่อรองรับการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ ของสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งนอกจากจะทำให้มีการพัฒนาระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ และสนับสนุนการวิจัยทางคลินิกและทางสาธารณสุขแล้ว ยังทำให้การให้บริการสุขภาพแก่ประชาชนมีคุณภาพยิ่งขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้นับว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในระบบสุขภาพของประเทศ
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้