4th Floor, National Health Building 88/39 Tiwanon 14 Road Taradkwan, Muang District Nonthaburi 11000
Font Size
-
+
color contrast
C
C
C
Search
เมนู

เตือน!!! ระวังโรคปอดชื้น ที่มาพร้อมลมหนาว

ก้าวเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว หลายพื้นที่คงสัมผัสถึงความหนาวเย็นของอากาศในช่วงเช้าที่เริ่มพัดผ่านเข้ามาเรื่อยๆทำให้ระดับอุณหภูมิต่ำลงเรื่อยๆ และเมื่ออากาศเย็นลงความชื้นในอากาศก็เพิ่มสูง ทำให้เอื้อต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรค ไวรัส และแบคทีเรีย ซึ่งอาจแอบแฝงมากับอากาศที่เราหายใจเข้าไป เราจึงไม่ควรนิ่งนอนใจกับการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อลดโอกาสในการเกิดโรคที่จะตามมา 

         พญ.ปรารถนา ศรีสร้างทอง อายุรแพทย์ระบบทางเดินหายใจและปอด โรงพยาบาลปิยะเวท กล่าวว่า ความชื้นที่มากับอากาศในช่วงฤดูหนาวอาจนำมาซึ่งเชื้อโรค ไวรัส แบคทีเรีย ที่แอบแฝงมากับอากาศ ซึ่งปอดของเรานั้นเป็นอวัยวะที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ และเป็นแหล่งที่ปราศจากเชื้อโรค หากเราสูดหายใจเอาไวรัสหรือแบคทีเรียผ่านเข้าไปถึงปอดเข้าใปในกระแสเลือด ส่งผลทำให้เกิดอาการปอดอักเสบ บวมชื้น และส่งผลต่อระบบการทำงานของร่างกายในที่สุด
        
        โรคปอดชื้นหรือปอดอักเสบนั้น คือสภาวะที่ปอดเกิดการอักเสบติดเชื้ออาจเกิดได้จากเชื้อหลายชนิด นับตั้งแต่ตระกูลไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา ซึ่งอาศัยอยู่ในอากาศ ที่สำคัญและพบมากคือโรคปอดอักเสบจากเชื้อนิวโม หรือ คอคัส นิวโมเนีย (Pneumococcal Pneumonia) แหล่งของโรค ส่วนมากพบในเด็กและผู้สูงอายุ โรคปอดชื้นและปอดอักเสบนั้นเกิดได้ทุกฤดูกาล แต่จะพบมากในช่วงฤดูหนาวโดยมีผู้ป่วยเป็นพาหะ สามารถติดต่อได้หลายทางไม่ว่าจะเป็นทางจมูก ลำคอ ลงไปที่ปอด ซึ่งได้รับเชื้อจากละอองน้ำมูก และเสมหะของผู้ที่ใช้ของร่วมกัน โดยมีระยะฟักตัว 1-3 วัน อาจนานถึง 7 สัปดาห์ในบางราย แต่ตราบใดที่ยังมีเชื้ออยู่ในน้ำมูก น้ำลายและเสมหะของผู้ป่วย ย่อมสามารถติดต่อไปสู่คนอื่นได้ แต่ปกติแล้วร่างกายจะมีความต้านทานโรคในระดับหนึ่ง แต่หากอยู่ในสภาวะที่ร่างกายเปียกชื้น หนาว อ่อนเพลียและดื่มสุรา สูบบุหรี่จัดติดต่อกัน พักผ่อนน้อย ความต้านทานโรคก็จะลดลงไป
        
        อาการของโรคปอดชื้น ปอดอักเสบนั้นจะเริ่มจากการมีไข้สูง ตัวร้อนจัด ร่วมกันอาการหายใจหอบคล้ายคนเป็นไข้หวัดใหญ่ อาจมีอาการหนาวสั่น เจ็บบริเวณหน้าอก และอาจมีโรคแทรกซ้อนได้ เช่น ไข้หวัดใหญ่ ทอนซิลอักเสบ หัด ไข้สุกใส ไอกรน หรือถ้าหนักมากๆ อาจถึงขั้นมีน้ำในช่องปอด มีหนองในปอด ร่วมกับการอุดตันของหลอดลม ปวดชื้นเป็นโรคหนัก รุนแรงเป็นอันตรายถึงขึ้นชีวิตได้ หากพบว่าตัวเองนั้นเริ่มมีอาการเป็นไข้สูง ไอ เจ็บหน้าอก หายใจติดขัดควรรีบปรึกษาแพทย์ทันทีอย่างปล่อยทิ้งไว้นาน
        
        พญ.ปรารถนา กล่าวอีกว่า ในฤดูหนาวที่มีอากาศเย็นเยื่อบุจมูกของเราจะค่อนข้างแห้ง เพราะฉะนั้นระบบภูมิต้านทานต่อเชื้อโรคหรืออากาศก็จะน้อยลง เราจึงควรรักษาร่างกายของเราให้อบอุ่นอยุ่เสมอด้วยการสวมเสื้อผ้าที่ป้องกันความหนาวเย็น ดื่มน้ำอุ่นเพื่อเพิ่มอุณหภูมิให้กับร่างกาย รับประทานอาหารที่ให้พลังงาน จำพวกแป้ง ไขมัน ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และหากเลี่ยงการดื่มสุราแก้หนาว อย่าผิงไฟในที่อับ ระวังอย่านอนในที่ที่มีลมโกรกโดยไม่สวมใส่เสื้อผ้าป้องกัน หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ผู้ป่วยที่เป็นโรคทางเดินหายใจ และหากพบว่าตัวเองเป็นหวัดควรใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรคไม่ให้แพร่กระจายไปสู่บุคคลอื่น

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
(Strictly Necessary Cookies) เปิดใช้งานตลอด

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้