ข่าว/ความเคลื่อนไหว
เพราะปัจจุบันคนไทยส่วนใหญ่มีกิจกรรมการเคลื่อนไหวทางกายไม่เพียงพอ สืบเนื่องมาจากการใช้เทคโนโลยี อีกทั้งการบริโภคอาหารที่มีพลังงานสูง ทำให้สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข พบว่า สัดส่วนผู้ที่มีภาวะอ้วนมีอัตราเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 5 และคาดว่าอีก 4 ปีข้างหน้าเยาวชน 1 ใน 5 จะอยู่ในภาวะโรคอ้วน
เมื่อเร็วๆนี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงจัดโครงการ “โรงเรียนเดินสะสมก้าว” ขึ้น เพื่อรณรงค์ให้เด็กไทยมีกิจกรรมด้วยการเดินทุกวัน โดย ผศ.ดร.เกษม นครเขตต์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพ จะเล่าถึงที่มาของกิจกรรมให้กับรายงานวันจันทร์
ถาม “โรงเรียนเดินสะสมก้าว” มีที่มาอย่างไร
ตอบ ขณะนี้เด็กไทยมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เพราะเทคโนโลยีทำให้เด็กไม่มีกิจกรรมเพื่อพัฒนาการให้สมวัย จากการสำรวจพบว่า เด็กไทยใช้เวลาหมดไปกับการนั่งๆนอนๆถึง 14 ชม. การนอนหลับพักผ่อน 8 ชม. และทำกิจกรรมเพียง 2 ชม. เด็กไม่มีกิจกรรมทางกายเพื่อเผาผลาญพลังงาน จึงเสี่ยงต่อภาวะโรคอ้วน
ถาม รูปแบบของโครงการเป็นอย่างไร
ตอบ สสส.ร่วมมือกับ 16 โรงเรียน ประกอบด้วย สาธิต มศว ปทุมวัน ศึกษานารี สตรีวุฒิศึกษา นนทรีวิทยา กิ่งเพชร วัดสุทธิวราราม ราชวินิต–บางแคปานขำ สาธิตรามคำแหง สาธิต มศว ประสานมิตร วัดนิมมานรดี ราชวินิตมัธยม วัดสังเวชวิศยาราม มัธยมวัดเบญจมบพิตร เตรียมอุดม เทพศิรินทร์ และสาธิตจุฬาฯ จัดกิจกรรมชื่อ “โรงเรียนรักเดิน” ลดภาวะแช่หน้าจอของเด็ก เน้นที่เด็กอายุระหว่าง 13–18 ปี ด้วยการเดินเป็นเวลา 2 เดือน (สิงหาคม–กันยายน 57) โดย สสส.ได้พัฒนาเครื่องวัดระดับกิจกรรมทางกาย และ Application ในโทรศัพท์มือถือ เพื่อเก็บข้อมูลด้วยการตรวจวัดแคลอรี หรือค่าการเผาผลาญพลังงาน
ถาม การเดินดีอย่างไร
ตอบ ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก ระบุว่า ใน 1 วัน ผู้ชายในวัยผู้ใหญ่ควรเดินให้ได้ถึง 10,000 ก้าว ส่วนผู้หญิงควรเดินให้ได้ถึง 8,000–9,000 ก้าว ขณะที่เด็กชายและเด็กหญิงหรือในช่วงวัยรุ่นต้องเดินให้ได้ถึงวันละ 13,000 ก้าว จะทำให้มีสุขภาพดี
นายสุภากรณ์ เสาสูงเนิน นักเรียนโรงเรียนราชวินิตบางแค–ปานขำ ชั้น ม.5 บอกว่า เป็นคนชอบออกกำลังกายโดยการเล่นกีฬา และเห็นด้วยที่มีกิจกรรมแบบนี้ออกมา ขณะที่ นางสาวกรรัมภา ชาไชย จากโรงเรียนเดียวกัน ชั้น ม.5 บอกว่า การออกกำลังกายช่วยในเรื่องของสัดส่วน และทำให้ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ
การเดินและการวิ่ง นับเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพสูงสุดชนิดหนึ่ง เหมาะสำหรับคนทุกวัย ทำง่าย ต้นทุนต่ำ ทั้งนี้หากต้องการเผาผลาญไขมัน (Fat Burn) ออกจากชั้นใต้ผิวหนัง โดยทฤษฎีจะต้องใช้เวลาในการออกกำลังกายถึง 45 นาที เพียงแค่นี้ เราก็จะปราศจากโรคอ้วน
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 หน้า 10
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้