ชั้น 4 อาคารสุขภาพแห่งชาติ เลขที่ 88/39 ถ.ติวานนท์ 14 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
ขนาดตัวอักษร
-
+
ความตัดกันของสี
C
C
C
icon-lang-thภาษาไทย
ค้นหา
เมนู
จำนวนผู้อ่าน : 20 คน
ความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ ผลกระทบด้านงบประมาณ และความเป็นไปได้ของมาตรการการคัดกรองเบาหวานในประชากรไทย
นักวิจัย :
สุคนธา คงศีล , วีรชัย ศรีวณิชชากร , เพชร รอดอารีย์ , ณัฐนารี เอมยงค์ , พิจิตรพงศ์ สุนทรพิพิธ , ณฐมน พรมอ่อน , รมนปวีร์ บุญใหญ่ , สุขุม เจียมตน ,
ปีพิมพ์ :
2568
สนับสนุนโดย :
สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข
วันที่เผยแพร่ :
22 พฤษภาคม 2568

บทนำ: การใช้ระบบประเมินความเสี่ยงและการคัดกรอง ในผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคเบาหวาน หรือผู้ที่มีภาวะก่อนเบาหวาน มีเครื่องมือหลายอย่าง และแต่ละอย่างมีข้อดี/ข้อจำกัดในการวินิจฉัยโรคเบาหวานและการทำนายการเป็นเบาหวานในอนาคต นอกจากนั้นยังมีต้นทุนในการดำเนินการที่แตกต่างกัน การประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ รวมทั้งการวิเคราะห์ผลกระทบของงบประมาณหรือภาระด้านงบประมาณ และการศึกษาความเป็นไปได้ของการคัดกรองเบาหวานในชุมชนและสถานบริการ จึงมีความจำเป็นและสำคัญที่จะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดกระบวนการคัดกรองโรคเบาหวานที่คุ้มค่า มีความเหมาะสมสำหรับการจัดสรรงบประมาณและมีความเป็นไปได้ การนำเสนอข้อมูลและผลงานวิจัยไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณา ในการนำการคัดกรองที่ผ่านการศึกษาดังกล่าว เข้าสู่ชุดสิทธิประโยชน์ในระบบสุขภาพตามบริบทของประเทศไทย จึงเห็นได้ว่าการศึกษาเพื่อประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ ผลกระทบด้านงบประมาณ และความเป็นไปได้ของมาตรการการคัดกรองเบาหวานในประชากรไทยมีความสำคัญ ข้อมูลและผลการศึกษาที่สำคัญจะถูกนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจเชิงนโยบายการคัดกรองเบาหวานที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทยต่อไป วัตถุประสงค์: เพื่อประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์และผลกระทบด้านงบประมาณโดยใช้มุมมองทางสังคมและมุมมองของรัฐบาล รวมถึงศึกษาความเป็นไปได้ของมาตรการการคัดกรองเบาหวานในประชากรไทย วิธีการศึกษา: การศึกษานี้เป็นการประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์โดยใช้แบบจำลอง Decision tree และ Markov เพื่อวิเคราะห์ต้นทุนอรรถประโยชน์และผลกระทบด้านงบประมาณ โดยใช้ข้อมูลจากการทบทวนวรรณกรรม และมีกรอบระยะเวลาตลอดชีวิต ต้นทุนและผลลัพธ์ในอนาคตถูกปรับค่าให้เป็นมูลค่าปัจจุบันโดยใช้อัตราการปรับลดร้อยละ 3 ต่อปี อ้างอิงตามข้อเสนอแนะของคู่มือการประเมินเทคโนโลยีด้านสุขภาพสำหรับประเทศไทย วิเคราะห์ความไม่แน่นอนของตัวแปรด้วยวิธีการวิเคราะห์ความอ่อนไหวแบบทางเดียว และแบบอาศัยความน่าจะเป็น ทางเลือกสำหรับมาตรการการคัดกรองเบาหวานในประชากรไทย ได้แก่ (1) ไม่มีการคัดกรองและรักษาเบาหวาน (2) การตรวจคัดกรองเบาหวานในกลุ่มประชากรทั่วไปอายุ 35-59 ปี ประกอบด้วยการประเมินความเสี่ยงของการเกิดโรคเบาหวานโดยใช้ Thai Diabetes Risk Score (DMRS) การตรวจน้ำตาลในเลือดโดยวิธีเจาะจากปลายนิ้ว (Fasting Capillary Blood Glucose: FCBG) หรือการตรวจวัดพลาสมากลูโคสในเลือดที่เจาะจากหลอดเลือดดำ (Fasting Plasma Glucose: FPG) (3) ในกลุ่มผู้ที่มีภาวะก่อนเบาหวาน ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหารอยู่ระหว่าง 110-125 มก./ดล. จะได้รับการตรวจความทนต่อกลูโคส (Oral Glucose Tolerance Test: OGTT) สำหรับการศึกษาความเป็นไปได้ของมาตรการการคัดกรองเบาหวานทำในผู้รับบริการ 3 กลุ่ม คือ ผู้ที่เสี่ยงเบาหวาน (ผู้ที่มีคะแนนความเสี่ยง ≥ 6 คะแนน หรือมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานข้อใดข้อหนึ่ง) ผู้ที่มีภาวะก่อนเบาหวาน (มีระดับน้ำตาลหลังอดอาหาร 110-125 มก./ดล.) และผู้ป่วยเบาหวาน (มีระดับน้ำตาลหลังอดอาหาร ≥ 126 มก./ดล.และได้รับการวินิจฉัยโดยแพทย์) และผู้ให้บริการในสถานบริการสาธารณสุขและในชุมชนอาศัยหลักการ 3A: Availability, Accessibility และ Affordability และมีการศึกษาเส้นทางของผู้ป่วยเบาหวานโดยประยุกต์จากมาตรการ Reach – Recruit – Test – Treat – Retain (RRTTR) ผลการศึกษา: ค่าอัตราส่วนต้นทุนต่อประสิทธิผลส่วนเพิ่ม (Incremental cost-effectiveness ratio, ICER) ของการคัดกรองด้วย DMRS ในกลุ่มประชากรทั่วไป การคัดกรองด้วย OGTT ในกลุ่มผู้ที่มีภาวะก่อนเบาหวาน (ระดับน้ำตาล 110-125 มก./ดล.) เมื่อเปรียบเทียบกับไม่มีการคัดกรอง ด้วยแบบจำลองกำหนดในการวิเคราะห์มาร์คอฟ มีค่าเท่ากับ 157,570 บาทต่อปีสุขภาวะ และ เท่ากับ 114,097 บาทต่อปีสุขภาวะ ตามลำดับ ณ ความเต็มใจจ่าย 160,000 บาทต่อปีสุขภาวะ แสดงให้เห็นว่าการคัดกรองด้วย OGTT ทั้งในกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มที่มีภาวะก่อนเบาหวาน มีความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ (ICERs) เท่ากับ 91.70% จากการจำลอง Probabilistic Sensitivity Analysis (PSA) 1,000 รอบ อยู่ภายใต้เกณฑ์ Willingness to pay (WTP) ที่ 160,000 บาท/QALYs ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการทดสอบด้วย OGTT ทั้งในกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มที่มีภาวะก่อนเบาหวาน จะมีความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ในบริบทของประเทศไทย ผลกระทบงบประมาณที่เกิดขึ้นจากการคัดกรองเบาหวานในกลุ่มเสี่ยง/ผู้มีภาวะก่อนเบาหวาน ประมาณการงบประมาณของมาตรการคัดกรองโรคเบาหวาน และค่ารักษาเบาหวาน ภาวะแทรกซ้อน ในระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ. 2566 - 2570) จากการคาดประมาณจำนวนประชากรอายุ 35-59 ปี (ชายและหญิง) มีผลกระทบด้านงบประมาณที่จะใช้ในการคัดกรองเบาหวานด้วย OGTT ประมาณ 130 ล้านบาท ในปี พ.ศ. 2566 และประมาณ 131 ล้านบาท ในปี พ.ศ. 2570 และเมื่อนำไปรวมกับต้นทุนสำหรับการคัดกรองด้วยวิธีอื่นรวมกัน ทำให้ต้นทุนสำหรับการคัดกรองด้วยวิธีอื่นรวมกันและ OGTT เท่ากับ 3,644 ล้านบาท ในปี พ.ศ. 2566 และ 3,658 ล้านบาท ในปี พ.ศ. 2570 สำหรับผลการศึกษาความเป็นไปได้ของมาตรการการคัดกรองเบาหวานในประชากรไทย ศึกษาในผู้รับบริการและผู้ให้บริการ เป็นการเข้าถึงบริการในสามประเด็น (3As) คือ การมีบริการ (Availability) การเข้าถึง (Accessibility) และ ความสามารถในการจ่าย (Affordability) พบว่าการมีอยู่ของบริการ OGTT ในมุมมองผู้รับบริการและผู้ให้บริการเท่ากับร้อยละ 63.9 และ 60.0 ตามลำดับ ความสามารถในการเข้าถึงบริการ OGTT ในมุมมองของผู้รับบริการและผู้ให้บริการเท่ากับร้อยละ 26.0 และ 63.3 ตามลำดับ และความสามารถในการจ่าย OGTT ในมุมมองของผู้รับบริการและผู้ให้บริการ เท่ากับร้อยละ 89.71 และร้อยละ 66.67 ตามลำดับ ผลที่ได้ใกล้เคียงกับการคัดกรองแบบอื่น สำหรับผลการศึกษาเส้นทางของผู้ป่วย (DM Patient Journey) ซึ่งประยุกต์จากมาตรการ RRTTR พบว่ามีประเด็นปัญหาอยู่สองประการคือ การขึ้นทะเบียนในระบบบริการเท่ากับร้อยละ 72.7 ในมุมมองของผู้รับบริการ และ ประเด็นจากความเห็นผู้ให้บริการ พบมีผู้ป่วยเบาหวานมารับการรักษาเท่ากับร้อยละ 68.2 ซึ่งมีสาเหตุจากไปทำงานต่างถิ่น ไม่มีคนมาส่ง/ไม่มีรถ ขาดความตระหนักถึงความรุนแรง ลืมวันนัด มียาของเดิมเหลืออยู่ หรือ ติดธุระ มีส่วนน้อยที่มีสาเหตุจากไปรับการรักษาที่คลินิกหรือโรงพยาบาลเอกชน เจ็บป่วยด้วยโรคอื่น หรือ ซื้อยากินเอง


ลิงก์ต้นฉบับ : https://kb.hsri.or.th/dspace/handle/11228/6264

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
(Strictly Necessary Cookies) เปิดใช้งานตลอด

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้