ชั้น 4 อาคารสุขภาพแห่งชาติ เลขที่ 88/39 ถ.ติวานนท์ 14 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
ขนาดตัวอักษร
-
+
ความตัดกันของสี
C
C
C
icon-lang-thภาษาไทย
ค้นหา
เมนู
จำนวนผู้อ่าน : 100 คน
การพัฒนาเครือข่ายร้านยาในระบบบริการสุขภาพแบบไร้รอยต่อ ประเทศไทย
นักวิจัย :
สุณี เลิศสินอุดม , อดิณัฐ อำนวยพรเลิศ , อภินันท์ วัชราภิชาต , ชวนชม ธนานิธิศักดิ์ , จุฑามณี ดุษฎีประเสริฐ , ศิริน เพ็ญภินันท์ , ขัตติยะ มั่งคั่ง , ปาริชาติ ธัมมรติ , นิรัชรา ถวิลการ , โฉมคนางค์ ภูมิสายดร ,
ปีพิมพ์ :
2567
สนับสนุนโดย :
สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข
วันที่เผยแพร่ :
26 กุมภาพันธ์ 2568

บทนำ ร้านยาเป็นส่วนสำคัญของระบบบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ ที่ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยเฉพาะในบริบทของสังคมไทยที่ร้านยาใกล้ชิดกับชุมชน การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการลดความแออัดในโรงพยาบาลและการจัดบริการสุขภาพที่กระจายตัวมากขึ้น โครงการพัฒนาเครือข่ายร้านยาในระบบบริการสุขภาพแบบไร้รอยต่อจึงเป็นแนวทางสำคัญในการสนับสนุนระบบสุขภาพ ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยี เช่น ระบบใบสั่งยาอิเล็กทรอนิกส์ และการสร้างร้านยาต้นแบบเพื่อขยายบทบาทเภสัชกรในระดับปฐมภูมิ วัตถุประสงค์ โครงการพัฒนาเครือข่ายร้านยาในระบบบริการสุขภาพแบบไร้รอยต่อของประเทศไทยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลสุขภาพ ลดความแออัดในโรงพยาบาล และส่งเสริมการเข้าถึงบริการสุขภาพของประชาชนผ่านเครือข่ายร้านยา โดยแบ่งเป็น 2 โครงการย่อย ได้แก่ โรงพยาบาลต้นแบบระบบการจ่ายยาตามใบสั่งยาอิเล็กทรอนิกส์ ในโครงการลดความแออัดของโรงพยาบาลรัฐ โมเดล 3 และการเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพในเขตสุขภาพที่ 7 ด้วยการพัฒนาเครือข่ายร้านยา ระเบียบวิธีวิจัย การศึกษานี้ใช้ระเบียบวิธีแบบผสม (Mixed Methods) ประกอบด้วยการศึกษาเชิงปริมาณแบบกึ่งทดลอง (Quasi-experimental) เพื่อประเมินผลลัพธ์ของบริการ และการศึกษาเชิงคุณภาพผ่านการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) และกลุ่มสนทนา (Focus Group Discussion) เพื่อสังเคราะห์ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ผลการศึกษา เกิดโรงพยาบาลต้นแบบระบบการจ่ายยาตามใบสั่งยาอิเล็กทรอนิกส์ ในโครงการลดความแออัดของโรงพยาบาลรัฐ โมเดล 3 ได้แก่ โรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต มีร้านยาเครือข่าย รวมทั้งสิ้น 45 ร้าน ร้านยาที่มีระบบจัดการยาโมเดล 3 จำนวน 17 ร้าน มีจำนวนผู้ป่วย 390 ราย และใบสั่งยาทั้งหมด 5,862 ใบสั่งยา ร้านยาในเขตสุขภาพที่ 13 กรุงเทพมหานครที่เข้าร่วมในการศึกษามีทั้งหมด 48 ร้าน ซึ่งครอบคลุมพื้นที่การให้บริการของโรงพยาบาล 4 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลสิรินธร และ โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ โดยร้านยาในเครือข่ายของโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ มีทั้งหมด 18 ร้าน ร้านยาในเครือข่ายของโรงพยาบาลกลางมีทั้งหมด 12 ร้าน ร้านยาในเครือข่ายของโรงพยาบาลสิรินธร มีทั้งหมด 10 ร้าน และร้านยาในเครือข่ายของโรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ มีทั้งหมด 8 ร้าน ครอบคลุมโรคเรื้อรัง ดังต่อไปนี้ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง โรคต่อมลูกหมากโต ผลการประเมินความพึงพอใจในภาพรวมของเภสัชกรร้านยาอยู่ในระดับมาก (3.83±0.71 จากคะแนนเต็ม 5) และเรื่องความเหมาะสมของค่าตอบแทนที่ได้รับ ความพึงพอใจอยู่ในระดับปานกลาง (2.75±1.235) สำหรับการเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพในเขตสุขภาพที่ 7 พบว่ามีร้านยาร่วมโครงการบริการอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยในร้านยา 96 แห่ง ครอบคลุม 30 อำเภอจากทั้งหมด 77 อำเภอ หรือประมาณร้อยละ 38.96 ของพื้นที่ในเขตสุขภาพที่ 7 การกระจายตัวในแต่ละจังหวัด มีดังนี้ จังหวัดร้อยเอ็ดมีร้านยาร่วมโครงการ 26 แห่ง ครอบคลุม 11 อำเภอ จาก 20 อำเภอ (ร้อยละ 55) โดยเน้นพัฒนาบริการต้นแบบ เช่น การดูแลอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย การให้บริการคัดกรองโรค และการจัดยาตามใบสั่งยาด้วยระบบ E-prescription ทำให้เกิดการดูแลแบบองค์รวมและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น จังหวัดขอนแก่น มีร้านยาร่วมโครงการ 49 แห่ง ครอบคลุม 9 อำเภอ จาก 26 อำเภอ (ร้อยละ 34.62) จังหวัดมหาสารคาม มีร้านยาร่วมโครงการ 16 แห่ง ครอบคลุม 5 อำเภอ จาก 13 อำเภอ (ร้อยละ 38.46) และจังหวัดกาฬสินธุ์ มีร้านยาร่วมโครงการ 5 แห่ง ครอบคลุม 5 อำเภอ จาก 18 อำเภอ (ร้อยละ 27.78) ข้อเสนอแนะจากการศึกษา ควรเพิ่มการประชาสัมพันธ์โครงการเพื่อสร้างความเข้าใจและการยอมรับของประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนงบประมาณและทรัพยากรเพื่อขยายบริการร้านยาในพื้นที่ที่ยังไม่ครอบคลุม ปรับปรุงระบบสารสนเทศและการเชื่อมโยงข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ เพื่อสนับสนุนการดูแลผู้ป่วยแบบครบวงจร สนับสนุนการกำหนดค่าตอบแทนที่เหมาะสมสำหรับเภสัชกรในร้านยา เพื่อสร้างแรงจูงใจในการเข้าร่วมโครงการ ส่งเสริมการพัฒนาร้านยาต้นแบบในพื้นที่อื่น ๆ โดยใช้แนวทางจากความสำเร็จของจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นต้นแบบ สรุป การพัฒนาเครือข่ายร้านยาในระบบบริการสุขภาพแบบไร้รอยต่อช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาล เพิ่มบทบาทของร้านยาในระบบสุขภาพ และเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงบริการของประชาชน ความสำเร็จของจังหวัดร้อยเอ็ดแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการพัฒนาร้านยาในพื้นที่ และชี้ให้เห็นความจำเป็นในการสนับสนุนและขยายผลไปยังพื้นที่อื่น ๆ เพื่อให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ


ลิงก์ต้นฉบับ : https://kb.hsri.or.th/dspace/handle/11228/6235

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
(Strictly Necessary Cookies) เปิดใช้งานตลอด

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้