งานวิจัยมาใหม่แนะนำ
การวิจัยและพัฒนานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสถานการณ์ พัฒนารูปแบบและประเมินผลรูปแบบการให้คำปรึกษาทางพันธุศาสตร์มะเร็งเต้านมในโรงพยาบาลมะเร็งอุบลราชธานี ดำเนินการระหว่าง กุมภาพันธ์ 2565-ธันวาคม 2566 ประกอบด้วย 2 ระยะ ระยะแรกเป็นขั้นตอนการศึกษาสถานการณ์ กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยแพทย์ 2 คน พยาบาลวิชาชีพ 7 คน นักเทคนิคการแพทย์ 2 คน และผู้ป่วยมะเร็ง 17 คน เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง ระยะที่ 2 เป็นขั้นตอนการพัฒนารูปแบบ ทดลองใช้และประเมินผลรูปแบบการให้คำปรึกษาทางพันธุศาสตร์โรคมะเร็ง กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย แพทย์ 5 คน พยาบาลวิชาชีพ 31 คน และประเมินผลการให้คำปรึกษาฯ ในผู้มารับบริการให้คำปรึกษาที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์การคัดเข้าจำนวน 88 คน ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย แบ่งเป็นกลุ่มทดลองจำนวน 44 คน ซึ่งเป็นผู้ป่วยมะเร็งหรือประชากรที่มีความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมและมะเร็งรังไข่ (hereditary breast and ovarian cancer syndrome: HBOC) สูง ที่มารับบริการ ณ คลินิกให้คำปรึกษาทางพันธุศาสตร์โรคมะเร็ง โรงพยาบาลมะเร็งอุบลราชธานี เปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมจำนวน 44 คน ซึ่งได้รับการให้คำปรึกษาและรักษาพยาบาลตามปกติ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบประเมินความรู้ ทัศนคติและทักษะ แบบประเมินความพึงพอใจ แบบประเมินความวิตกกังวลและความซึมเศร้า และแบบประเมินความกังวลโรคมะเร็งในผู้รับบริการ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการใช้สถิติเชิงพรรณนา การวิเคราะห์เนื้อหา การวิเคราะห์แก่นสาระ และการใช้สถิติทดสอบที ผลการศึกษาสถานการณ์พบว่าการให้คำปรึกษาทางพันธุศาสตร์โรคมะเร็งยังมีความไม่ชัดเจน บุคลากรทางการแพทย์มีความพร่องในองค์ความรู้ รวมถึงมีความพร่องในสมรรถนะเกี่ยวกับการให้คำปรึกษาทางพันธุศาสตร์โรคมะเร็ง ผลการพัฒนารูปแบบการให้คำปรึกษาทางพันธุศาสตร์โรคมะเร็งที่พัฒนาขึ้น ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลัก คือ ด้านโครงสร้าง ด้านบุคลากรและด้านระบบบริการ สำหรับการประเมินผลการให้คำปรึกษาทางพันธุศาสตร์โรคมะเร็ง พบว่า ความรู้ ทัศนคติและทักษะพยาบาลหลังการฝึกอบรมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ความพึงพอใจของบุคลากรในการให้บริการในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ความรู้และทัศนคติในผู้รับบริการหลังให้คำปรึกษาฯ เพิ่มขึ้น และสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ส่วนระดับความวิตกกังวลและซึมเศร้า วัดด้วย Thai hospital anxiety and depression scale (Thai-HAD) ระดับความกังวลต่อโรคมะเร็งลดลงกว่าก่อนใช้รูปแบบการให้คําปรึกษาฯ ที่พัฒนาขึ้น และตํ่ากว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 สำหรับความพึงพอใจในการรับบริการของผู้มารับคำปรึกษาฯ ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ผลการศึกษาสรุปได้ว่าการให้คำปรึกษาทางพันธุศาสตร์โรคมะเร็ง เป็นการสื่อสารที่ช่วยให้ผู้ป่วยหรือครอบครัวมีความเข้าใจเกี่ยวกับตัวโรค สาเหตุและแนวทางการรักษาและการป้องกัน มีทางเลือกในการจัดการกับความเสี่ยงที่เป็นไปได้และเหมาะสมมากที่สุด รวมทั้งการปรับตัวของผู้ป่วยและสมาชิกในครอบครัวให้เข้ากับโรคที่เป็นด้วย ดังนั้น จึงควรนำการให้คำปรึกษาทางพันธุศาสตร์โรคมะเร็งนี้ไปประยุกต์ใช้ เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการให้บริการให้คำปรึกษาทางพันธุศาสตร์โรคมะเร็งแก่หน่วยบริการสุขภาพด้านโรคมะเร็งต่อไป
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้