4th Floor, National Health Building 88/39 Tiwanon 14 Road Taradkwan, Muang District Nonthaburi 11000
Font Size
-
+
color contrast
C
C
C
Search
เมนู

สวรส. ร่วมกับ สมาคมโรคเบาหวานฯ จัดประชุมวิชาการเครือข่ายดูแลผู้ป่วยเบาหวาน ยกระดับความรู้ พร้อมพัฒนาประสิทธิภาพระบบการดูแลผู้ป่วยเบาหวานประเทศไทย

          โรคเบาหวานชนิดที่ 1 เป็นโรคเบาหวานที่พบได้ในทุกอายุ และพบบ่อยในเด็กวัยเรียน วัยรุ่น และวัยทำงาน มีสาเหตุเฉพาะต่างจากเบาหวานชนิดที่ 2 คือ เกิดจากเซลที่ผลิตฮอร์โมนอินซูลินเสื่อมสภาพไป ทำให้ร่างกายไม่มีฮอร์โมนอินซูลิน หรือมีไม่เพียงพอต่อกระบวนการทำงานในระบบสมดุลน้ำตาลของร่างกาย การรักษาจึงต้องมีการฉีดฮอร์โมนอินซูลินเข้าไปในร่างกายให้ระดับน้ำตาลมีความสมดุล ดังนั้นผู้ป่วยจึงจำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับการฉีดอินซูลิน การรับประทานอาหารเพื่อควบคุมระดับ ซึ่งการวินิจฉัยผู้ป่วยจำเป็นต้องแยกผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ออกจากผู้ป่วยเบาหวานวินิจฉัยอายุน้อยกว่า 30 ปี และเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มีสาเหตุจากภาวะอ้วน วิถีชีวิต และพันธุกรรม เพื่อการรักษาอย่างถูกวิธีและเหมาะสมกับชนิดของโรค ทั้งนี้ข้อมูลจากสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย ณ 1 มี.ค. 2567 ประเทศไทยมีผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ที่ลงทะเบียนโดยโรงพยาบาลในเครือข่ายการดูแลผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 จำนวน 5,143 คน [1] ซึ่งจำนวนของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 และชนิดที่ 2 ที่ได้รับการวินิจฉัยก่อน 30 ปี มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ส่วนชุดสิทธิประโยชน์ของสิทธิ์บัตรทองในผู้ป่วยกลุ่มนี้ ปัจจุบันครอบคลุม 3 เรื่อง ได้แก่ 1) ค่าบริการการสอนและประเมินศักยภาพการดูแลตนเองให้ผู้รับบริการ (Diabetes Self Management Education and Support: DSME module) 2) ค่าบริการชุดตรวจระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตัวเอง 3) ค่าตรวจคัดกรองภาวะแทรกซ้อนประจำปี ได้แก่ HbA1c, Microalbuminuria, Lipid profile, ตรวจตาและตรวจเท้า

          สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) จึงร่วมกับสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดการประชุมวิชาการเครือข่ายบริบาลและการลงทะเบียนเบาหวานชนิดที่ 1 และเบาหวานวินิจฉัยก่อนอายุ 30 ปี (T1DDAR CN) หัวข้อ Update of Type 1 Diabetes and Diabetes in the Young เพื่อนำเสนอความรู้วิชาการและนวัตกรรมใหม่ๆ ในการดูแลผู้ป่วยเบาหวาน การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการให้ความรู้และสร้างทักษะเพื่อการดูแลโรคเบาหวานด้วยตนเอง และการช่วยเหลือสนับสนุนให้มีการดูแลตนเองผ่านระบบการดูแลแบบเครือข่าย ตลอดจนการจัดระบบสิทธิการเบิกจ่าย อุปกรณ์ ยา และสิ่งจำเป็นในการรักษาผู้ป่วยให้มีประสิทธิภาพ ได้มาตรฐาน และสามารถนำไปวินิจฉัยและดูแลผู้ป่วยได้ถูกต้อง โดยมีหัวข้อที่น่าสนใจ อาทิ Prevention of type 1 diabetes, Insulin delivery 2024, สิทธิประโยชน์และแนวทางการเบิกจ่ายของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ในประเทศไทย, Algorithm for diagnosis type of diabetes, How to implement DSME modules successfully ฯลฯ ทั้งนี้มีผู้เข้าร่วมประชุมเป็นผู้แทนจากกรมควบคุมโรค กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กรมบัญชีกลาง สำนักงานประกันสังคม สปสช. และบุคลากรทางการแพทย์จากเครือข่ายโรงพยาบาลทั่วประเทศ 70 แห่ง รวมกว่า 300 คน ณ โรงแรมอมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต กทม.

          สำหรับการประชุมวิชาการดังกล่าว เป็นการประชุมที่เป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัย สวรส. “โครงการการลงทะเบียนผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 และผู้ป่วยเบาหวานที่วินิจฉัยก่อนอายุ 30 ปี และการบริบาลผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1” ซึ่งงานวิจัยได้มีการพัฒนาระบบการลงทะเบียนและการดูแลผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 และผู้ป่วยเบาหวานที่วินิจฉัยก่อนอายุ 30 ปีมาอย่างต่อเนื่อง เข้าสู่ปีที่ 3 จนปัจจุบันสามารถสร้างเครือข่ายโรงพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยเบาหวานฯ ได้เพิ่มขึ้น เป็นจำนวน 99 แห่งทั่วประเทศ และจากการพัฒนาระบบการดูแล รวมทั้งมีการดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง พบว่า ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ที่จำเป็นต้องฉีดยาอินซูลินตลอดชีวิต เมื่อได้รับการรักษาตามรูปแบบของเครือข่าย T1DDAR CN และโปรแกรมการให้ความรู้และสร้างทักษะเพื่อการดูแลโรคเบาหวานด้วยตนเอง (DSME module) ทำให้ผู้ป่วยสามารถควบคุมค่าน้ำตาลสะสมดีขึ้น รวมทั้งไม่มีภาวะแทรกซ้อนแบบเฉียบพลันในทุกกลุ่มอายุ และในกลุ่มอายุ 18 ปีขึ้นไป พบว่า มีคุณภาพชีวิตดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งผลลัพธ์โดยรวมมีความคุ้มค่าในบริบทของประเทศไทย

          นอกจากนี้ยังทำให้เกิดการทำงานร่วมกันในรูปแบบเครือข่ายของสมาคมวิชาชีพฯ มีทีมผู้รักษาที่สามารถให้บริการตามรูปแบบของ DSME module และมีการดำเนินงานเป็นระบบเครือข่าย มีระบบการลงทะเบียนข้อมูล ติดตาม ใน REDCap Program ร่วมกัน ทั้งนี้โครงการลงทะเบียนติดตามผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 และเบาหวานที่ได้รับการวินิจฉัยก่อนอายุ 30 ปี เป็นการเก็บข้อมูลแบบสหสถาบันในประเทศไทยจากโรงพยาบาล 13 เขตบริการสุขภาพ รวม 57 แห่ง ซึ่งในอนาคตคาดว่าจะมีการผลักดันรูปแบบการดูแลผู้ป่วยดังกล่าวเข้าสู่แผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service Plan) ของกระทรวงสาธารณสุขต่อไป 
........................

ข้อมูลจาก
[1] T1DDAR DASHBOARD. (cmu.ac.th)

รูปภาพเพิ่มเติม
อำพนภัทรา ชาติทอง
08 มี.ค. 67
หัวข้อ

เบาหวานชนิดที่1

รายละเอียด

เคยมีการตั้งสมมุติฐานบ้างมั้ยคะว่าขณะแม่ตั้งท้อง แม่กินหวานมากเกินจนเป็นให้ ตับอ่อนของเด็กเสื่อมไม่สามารถผลิตอินซูลินได้ ตั้งแต่อยู่ในท้อง


สมพงษ์
15 ต.ค. 67
หัวข้อ

นำเสนอระบบ CKAN

รายละเอียด

เคยมีการตั้งสมมุติฐานบ้างมั้ยคะว่าขณะแม่ตั้งท้อง แม่กินหวานมากเกินจนเป็นให้ ตับอ่อนของเด็กเสื่อมไม่สามารถผลิตอินซูลินได้ ตั้งแต่อยู่ในท้อง


aYlNlfdX
08 พ.ย. 67
หัวข้อ

1

รายละเอียด

20


aYlNlfdX
08 พ.ย. 67
หัวข้อ

1

รายละเอียด

20


แสดงความคิดเห็น

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
(Strictly Necessary Cookies) เปิดใช้งานตลอด

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้